<h3>นายผยงศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับสิทธิ์มาตรการชิมช้อปใช้ 10 ล้านคน และได้รับ 1,000 บาท ผ่านกระเป๋าจีวอลเลท 1 ที่ได้ยืนยันตัวตนและใช้จ่ายเงินที่ได้รับแล้ว ยังสามารถเติมเงินในในกระเป๋าจีวอลเลท 2 เพื่อใช้จ่ายในร้านที่ร่วมโครงการชิมช้อปใช้ได้ทุกจังหวัดที่ไม่ตรงกับทะเบียนบ้านเพื่อรับสิทธิเงินคืนจากยอดการใช้จ่ายได้สูงถึง15% ของวงเงินใช้จ่ายไม่เกิน30,000 บาทหรือรับเงินคืนสูงสุด4,500 บาท ซึ่งเมื่อประชาชน10 ล้านคนที่ได้รับสิทธิ์นำเงินไปใช้จ่ายเป็นการส่งเสริมการใช้จ่ายในประเทศและทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ</h3> <h3><!--more--></h3> <h3>นายผยง กล่าวว่า ขั้นตอนในการเติมเงินเพื่อใช้จ่ายผ่านจีวอลเลท 2 ผู้ได้รับสิทธิแตะที่สัญลักษณ์คิวอาร์โค้ดที่อยู่มุมบนซ้ายของแอพพลิเคชั่นเป๋าตังภายใต้ชื่อ “เติมเงิน จีวอลเลท” และสามารถใช้โมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารสแกนคิวอาร์โค้ดนี้เพื่อเติมเงิน หรือทำการเติมเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ด้วยโมบายแบงกิ้ง และเอทีเอ็มของทุกธนาคาร โดยระบุหมายเลขจีวอลเลท15 หลักที่ได้จากคิวอาร์โค้ดหลังจากนั้น ผู้ได้รับสิทธิสามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันทีจนถึงวันที่30 พฤศจิกายนนี้ ส่วนขั้นตอนการชำระเงินในการใช้จ่ายผ่านจีวอลเลท2 เพียงกดตรงใช้สิทธิรับเงินคืน15% และกดใช้จ่ายร้านค้าถุงเงินหลังจากนั้นจะได้คิวอาร์โค้ดเพื่อให้ร้านค้าใช้แอพพลิเคชั่นถุงเงินสแกน โดยผู้รับสิทธิกดยืนยันการชำระเงิน</h3> <h3> “ชิมช้อปใช้" เป็นมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมีกระแสตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลามหากมีการเติมเงินจีวอลเลท2 และใช้จ่ายเพิ่มเติมทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายไปสู่ฐานรากของชุมชนเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล” นายผยงกล่าว</h3> <h3>ข้อมูลข่าวจาก <a href="https://www.matichon.co.th/economy/news_1715035"><img class="alignnone wp-image-13463" src="https://katipnews.com/wp-content/uploads/2019/09/matichon-400x209.jpg" alt="" width="161" height="84" /></a></h3> <h3></h3> <h3></h3>