<h3>เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์องคมนตรี, พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม</h3> <h3><!--more--></h3> <h3>พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.), พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.), พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1, พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 รวมทั้งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และศิษย์เก่า เดินทางมาเข้าร่วม พิธีวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ครบรอบ 132 ปี อย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้วางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ก่อนเดินทางกลับกทม. ในเวลา 08.30 น.</h3> <h3>พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนว่า ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการในการถวายสัตย์ฯต่อหน้าพระมหากษัตริย์ ซึ่ง ณ ตรงนั้นก็เสร็จไปแล้วว่าจะต้องทำอะไรในการดูแลประชาชน ข้อความต่าง ๆ ที่พูดไปแล้วถือว่าครอบคลุมทั้งหมด และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญในการดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย</h3> <h3>พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญที่สุดเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งพระองค์ท่านรับสั่งมาให้ทำงานเพื่อประชาชนทและประเทศชาติ ซึ่งตรงกับรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าทำเพื่อประชาชนทั้งเพื่อประเทศ ตนคิดว่าเรื่องนี้ควรจบดีกว่า อย่าให้บานปลาย หลายคนในนั้นก็เป็นทหาร ขอร้องว่าเคยเป็นพี่น้องกันมา อย่าให้การเมืองมาทำให้ประเทศชาติปั่นป่วนไปทั้งหมด ถ้าจะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ให้รอเลือกตั้งคราวหน้าก็แล้วกัน</h3> <h3><span style="color: #0000ff;">- นายกฯไม่กังวลฝ่ายค้านยื่นอภิปราย</span></h3> <h3>ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกังวลที่มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่กังวลอะไรทั้งสิ้น จะกังวลไปทำไม เพราะมีเรื่องที่น่ากังวลมากกว่านี้อีกมาก การที่เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีเรื่องหลายอย่างต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างมีตามรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งต้องร่วมมือกับรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งการเซ็นต์งบประมาณ การอนุมัติโครงการทุกอย่างต้องตอบสนองรัฐธรรมนูญทั้งนั้น โดยรัฐธรรมนูญได้เขียนแบบกว้างๆ เอาไว้</h3> <h3>นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไปทะเลาะกันแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องไปดูว่ากฎหมายลูกมีอะไรบ้าง เพราะเป็นส่วนที่จะทำให้การทำงานเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่รัฐธรรมนูญเป็นเพียงแค่กรอบกว้าง จะไปทำอะไรได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องอาศัยกฎหมายลูกที่มีหลายพันหลายหมื่นฉบับ รวมถึงกฎกระทรวง</h3> <h3><em><span style="color: #800000;">“สิ่งที่ผมพูดเป็นวิธีของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกษตรหรือเรื่องอะไรก็ตาม ที่พูดกันเรื่องเสื้อกระดุม 5 เม็ด ขอให้ลองไปดูว่าเราได้ทำอะไรไปหรือยัง บางอย่างมาจากต่างประเทศ เราก็นำหลักการนั้นมาคิดและประยุกต์ว่าสิ่งเหล่านั้นทำกับเราได้หรือไม่ อย่างประเทศเราผมก็เห็นใจเกษตรกรมากที่สุด เพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมถึงคนที่อยู่ในกระบวนการเหล่านี้ด้วย ทั้งปลูก ผลิตและแปรรูป ถือเป็นห่วงโซ่ทั้งหมด ซึ่งเราก็ต้องดูทั้งหมด ถ้าไปดูแต่ขั้นต้น ตรงกลาง แรงงาน ตลาดก็มีปัญหา การแข่งขันด้านราคาก็มีปัญหาอีก เราต้องกลับมาย้อนดูว่าต้นทางคืออะไร ในประเทศที่เจริญแล้วห่วงโซ่ตรงนี้จะไม่มากนัก เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งไทยยังไปไม่ถึงตรงนั้น เราก็ต้องพยายามไปให้ถึงตรงนั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว</span></em></h3> <h3>พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการลดต้นทุนการผลิตเป็นตัวสำคัญที่สุด ถ้าลดไม่ได้ก็ไปไม่ได้ เช่นประเทศอิสราเอลที่หลายคนก็อยากเป็นเช่นนั้น แต่เขามีประชากรแค่ 10 ล้านคน และมีประเทศเล็กกว่าเราหลายสิบเท่า ดังนั้นจึงอยากถามคำถามกลับไปว่าเราควรมีการบริหารจัดการที่เหมาะสมหรือไม่ในการทำการเกษตรในเมืองไทย ตนไม่ต้องการห้ามทั้งสิ้นว่าจะปลูกอะไร แต่ถ้าปลูกแล้วเกิดความเสียหายรัฐบาลจะเข้าไปอุดหนุนทั้งหมดคงเป็นไปได้ยาก เพราะไม่คุ้มกับต้นทุน จึงเป็นเรื่องของการบริหารจัดการให้ปลูกพืชอย่างเหมาะสม มีแหล่งน้ำที่เพียงพอ ประเทศไทยสามารถจัดพื้นที่ชลประทานได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีลักษณะพื้นที่สูงต่ำ มีน้ำท่วมและมีน้ำแล้ง ส่วนใหญ่เป็นนาน้ำฝน และอีกส่วนหนึ่งเป็นนานอกระบบชลประทาน</h3> <h3><span style="color: #0000ff;">- บิ๊กตู่ขอทุกคนรักประเทศ</span></h3> <h3>“เหล่านี้คือปัญหาของเรา รวมถึงการปลูกอะไรมากเกินไป ในส่วนที่ราคาดีให้สังเกตว่าเพราะอะไร ก็เพราะว่าจำนวนน้อยลง แรงงานที่มาจากต่างประเทศก็น้อยลง ที่ผ่านมาพอราคาดีขึ้นคนก็ไปปลูกตามกันหมด ทำให้ปัญหากลับมาที่เก่า ต้องคิดแบบนี้ เพราะนี่คือการติดกระดุมเม็ดที่ห้า ผมไม่ขัดแย้งและก็ขอขอบคุณที่พูดกันมาและขอชื่นชมหลายคน แต่ต้องไปดูว่าในทางปฏิบัติทำได้จริงหรือไม่ การพูดแล้วไม่ปฏิบัติจริงก็ถือว่ายาก” นายกฯและรมว.กลาโหม กล่าว</h3> <h3>พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การปฏิบัติก็ทำโดยรัฐบาล ซึ่งก็คือคณะรัฐมนตรีที่ทุกคนได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ตนเคารพกติกาตรงนี้ เขาจะชี้แจงว่าสิ่งไหนทำได้หรือทำไม่ได้ ไม่ใช่ให้มาทำในลักษณะนโยบายทั้งหมด เพราะทำไม่ได้มากขนาดนั้น ทั้งนี้ก็ต้องมีการประชุมเรื่องงบประมาณและแผนงาน ซึ่งไม่สามารถบรรจุสิ่งเรานั้นไว้ทั้งหมดภายในปีนี้ปีเดียวได้ ต้องทยอยไปแบบระยะสั้นและระยะยาว</h3> <h3>นายกฯ กล่าวด้วยว่า พร้อมทั้งใช้จ่ายงบประมาณตามห้วงระยะเวลา และประเมินหนี้สาธารณะรายปีว่าต้องตั้งเงินกู้เท่าไหร่ที่คาดการณ์ไว้อีกหลายปี ที่จะทำให้ประเทศเรามีรายได้แบบสมดุล อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนรักประเทศไทยมาก อย่าไปนำเสนอข่าวที่ขัดแย้ง เพราะจะถอยกันทั้งประเทศ ผู้บัญชาการเหล่าทัพและทหารทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีใครอยากจะอยู่ตรงนี้เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำ จะไปย้อนกลับทำไม ไม่มีอะไรจะให้เดินหน้าสักอัน</h3> <h3>ที่มา <a href="https://www.khaosod.co.th/politics/news_2773343">ข่าวสด</a></h3>