<h3>วันที่ 14 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ 4 บ้านสงาว ตำบลห้วยพิชัย อำเภอปากชม จังหวัดเลย เป็นหมู่บ้านทำการเกษตร และประมงจับปลาตามลำแม่น้ำโขง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเชิงเขา และอยู่ติดกับแม่น้ำโขง ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะปลูกกล้วยน้ำหว้า ปลูกตามเชิงเขา และที่ราบ ปลูกกล้วยแต่ไม่ขายกล้วย ตัดแต่ใบขายตองกล้วยขายกันทั้งหมู่บ้าน สร้างรายได้แต่ละครอบครัวถึงวันละ 600-700 บาท ส่งลูกเรียนจบถึงปริญญาตรี มีพ่อค้ามารับถึงในบ้าน</h3> <h3><!--more--></h3> <h3>นางพัฒนรินทร์ แก้วเศรษฐี ชาวบ้าน หมู่ 4 บ้านสง่าว เผยว่า ตนมีอาชีพทำการเกษตร ถึงฤดูทำนาก็ทำนา แต่ว่างจากการทำนาก็ปลูกกล้วยน้ำหว้า จำนวนหลายพันต้น ส่วนใหญ่ชาวบ้านสง่าว จะหันมาปลูกกล้วยกันทั้งหมู่บ้าน และสร้างได้รายเข้าครอบครัวทุกวัน จากการขายใบกล้วย ซึ่งมีราคาแน่นอนกว่าตัดขายได้ทุกวัน ตลาดมีความต้องการมาก มีเท่าไรพ่อค้ารับซื้อหมด เนื่องจากว่า บ้านสงาว เป็นทางผ่านจากจังหวัดเลยไปจังหวัดหนองคาย และอุดรธานี ซึ่ง 2 จังหวัด มีคนทำอาชีพ ทำแหนม ทำหมูยอ และเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของภาคอีสาน จึงต้องการใบตองกล้วย เพื่อห่อแหนมและหมูยอ เป็นจำนวนมาก</h3> <h3><img class=" wp-image-12952 aligncenter" src="https://katipnews.com/wp-content/uploads/2019/08/ขายใบกล้วย.2-1024x768-400x300.jpg" alt="" width="564" height="423" /></h3> <h3>“โชคดีของชาวบ้านสงาว ที่มีภูมิลำเนาเป็นที่ราบเชิงเขา ลมไม่แรง การปลูกกล้วยใบตองกล้วยจึงไม่ถูกลมพัดมากนัก ใบไม่แตก จนเป็นที่ต้องการของร้านทำแหนมทำหมูยอ ชาวบ้านเกือบทุกหลังคาเรือนจึงปลูกกล้วย เพื่อขายใบตองกล้วยกัน โดยจะเริ่มไปตัดใบกล้วยตั้งแต่เช้า บ่ายๆนำใบกล้วยมาบ้าน และใช้มีดเลาะเอาก้านออก เหลือแต่ในตองกล้วย นำมามัดกองไว้ และช่วงเย็นก็จะมีพ่อค้ามารับ ซึ่งทุกวันพ่อค้าจะสั่งต้องการใบกล้วยกี่มัด ทางชาวบ้านจะรวมกันและขายให้กับพ่อค้า ซึ่งราคาขายมัดละ 10 บาท โดยเฉลี่ยแต่ละบ้านจะขายได้วันละ 60-70 มัดต่อวัน สร้างรายได้ให้แต่ละครอบครัว 600-700 บาท ต่อวัน บางบ้านขยันมีพื้นที่ปลูกต้นกล้วยมากขายได้วันละ 1,000 กว่าบาทก็มี จนบางบ้านส่งลูกเรียนจบถึงปริญญาตรี ทำงานดีๆเป็นเจ้าเป็นนายไปหลายคนแล้ว จากเงินที่ตัดใบกล้วยขาย” นางพัฒนรินทร์ กล่าว</h3> <h3>ที่มา <a href="https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1624732">matichon</a></h3>