<h3> กรณีคดีนายอุดม ศิริสอน อายุ 54 ปี และนางแดง ศิริสอน อายุ 51 ปี สามีภรรยา (ที่ถูกเรียกในสังคมออนไลน์ว่า “ตายายเก็บเห็ด”) บ้านโนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมในข้อหาร่วมกันบุกรุกแผ้วถาง ก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงแนง ตั้งแต่ปี 2553</h3> <!--more--> <h3>และในปี 2554 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์พิพากษาจำคุกคนละ 30 ปี ลดโทษเหลือ 15 ปี จากนั้นปี 2557 ผู้ต้องหายื่นประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำแก้จำคุกเป็น 14 ปี 12 เดือน และในปี 2560 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุก นายอุดม และนางแดง ศิริสอน ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง โดยให้จำคุกคนละ 5 ปี</h3> <h3>ล่าสุดกรมป่าไม้ ได้ทำหนังสือนายอุดม ศิริสอน อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 456/2560 ลงวันที่ 2 ก.พ.2560 ความว่า ตามคดีอาญาที่อ้างถึง เรื่องความผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งคดีนี้ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ มีคำพิพากษาให้นายอุดม และพวกรวม 2 คน มีความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พ.ร.บ.ป่าไม้</h3> <h3>ซึ่งผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาย ตามนัยมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 โดยพื้นที่บุกรุกทำลาย 72 ไร่ คิดค่าเสียหายต่อรัฐเป็นเงินทั้งสิ้น 2,521,055 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น</h3> <h3>เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ต้องชี้แจงก่อนว่า นายอุดม และนางแดง ที่ถูกจับกุมในขณะนั้นอายุแค่ 40 ปีปลายๆ และไม่ได้ถูกจับข้อหาเก็บเห็ดตามที่สังคมรับรู้ แต่ทั้งสองคนต้องโทษในคดีร่วมกันบุกรุกแผ้วถาง ก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงแนง บุกรุกทำลายป่า 72 ไร่</h3> <h3>และพบมีการตัดโค่นไม้สักและไม้กระยาเลย ขนาดโตประมาณ 30 – 90 เซนติเมตร อายุ 15 – 20 ปี กว่า 700 ต้น ซึ่งเมื่อจับผู้กระทำผิดทั้งสองได้ก็ส่งนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กระทั่งมีการดำเนินคดีจนคดีสิ้นสุดถึงชั้นศาลฎีกา</h3> <h3>“สังคมเคยตั้งคำถามว่า แค่ 2 คนไม่น่าจะบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าได้ถึง 72ไร่ และตัดไม้สัก ไม้กระยาเลยอีกกว่า 700 ต้น ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นลักษณะของกลุ่มขบวนการที่ลักลอบตัดไม้ และแบ่งหน้าที่กันทำ</h3> <h3>ซึ่งนายอุดมและนางแดง ยอมรับสารภาพว่าทำผิดจริง แต่ก็ไม่ได้ซักทอดไปยังบุคคลอื่นแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการสืบสวนเพื่อหากลุ่มร่วมขบวนการก็อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนของสภ.ยางตลาด”</h3> <h3>นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นเรื่องปกติของทุกคดี คดีบุกรุกป่า อายุความละเมิดต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายภายใน 1 ปี นับแต่รู้หรือควรได้รู้เหตุ แต่ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันละเมิด และหากปล่อยคดีขาดอายุความ หน่วยงานต้องตั้งกรรมการสอบหาผู้รับผิดทางละเมิด หากกรมป่าไม้ไม่ฟ้องร้องจะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีก</h3> <h3>ส่วนค่าเสียหายต่อรัฐ ทั้งสิ้น 2,521,055 บาท เป็นไปตามการคำนวณค่าเสียหายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาย มาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ในพื้นที่บุกรุก 72 ไร่</h3> <h3>“อย่างไรก็ตามในส่วนของหน่วยงานราชการ หากพบว่าผู้กระทำผิดมีความจำเป็นหรือเป็นผู้ยากไร้ กรมป่าไม้ก็อาจหาช่องทองช่วยเหลือลดหย่อนตามเหตุสมควรได้ ซึ่งจะประสานไปยังกระทรวงการคลังเพื่อรับเรื่องต่อไป ซึ่งขณะนี้นายอุดม และนางแดง ยังมีโทษจำคุกอยู่</h3> <h3>โดยทางเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ได้เสนอชื่อทั้ง 2 คน อยู่ในกระบวนการรอรับพระราชทานอภัยโทษด้วย และทางกรมป่าไม้จะประสานงานกับกรมราชทัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือในส่วนที่สมควรจะดำเนินการได้ตามระเบียบและกฎหมายต่อไป” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว</h3> <h3>ที่มา:<a href="https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2297273">ข่าวสด</a></h3> <h3></h3>