<h3>สักวันหนึ่งจะกลับมา! “ธนาธร” แถลงยุติบทบาท ส.ส. ลั่น ไม่เสียใจ พร้อมต่อสู้สุดทาง เดินหน้าพบประชาชน-ฟังปัญหาในฐานะพรรคการเมือง ยัน ลูกพรรคไม่เสียกำลังใจ ชวนพิสูจน์การทำงาน</h3> <!--more--> <h3>เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ที่หอประชุมบริษัททีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงภายหลังออกจากห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร อ่านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งว่า หลังจากเปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ท่านประธานในที่ประชุมได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยให้ตนหยุดการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะส.ส.เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น ซึ่งตนได้กล่าวลาและยุติบทบาทการทำหน้าที่ แต่ขอยืนยันว่าการเป็นตัวแทนของประชาชน ไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ในสภาอย่างเดียว ตนจะใช้เวลานี้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนเข้าไปพบปะพูดคุยรับฟังปัญหาของประชาชน เพื่อนำไปให้ส.ส.ในพรรคของตน ตั้งกระทู้อภิปรายในสภา แต่จะใช้เวลานี้ศึกษาปัญหาของประชาชนและขยายแนวคิด อุดมการณ์ แนวนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจ เจตนาที่ดีของพรรคที่มีต่อสังคม จะทำงานต่อไปไม่หยุดยั้ง ไม่ท้อถอย ถึงแม้จะไม่ได้ทำงานในสภา ก็จะไม่ไปไหน ทำงานกับประชาชนต่อไป ตนจะรอวันนั้น สักวันหนึ่งตนจะกลับมา</h3> <h3>เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไร ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่เสียใจ ต้องยอมรับว่าส.ส.มีเอกสิทธิ์ มีอำนาจในทางนิติบัญญัติ แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัด ในเรื่องพิธีกรรมและเวลา ดังนั้น ในช่วงนี้ที่ตนยังไม่สามารถมีอำนาจนิติบัญญัติได้ เราก็จะรณรงค์กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ให้เห็นถึงนโยบาย เป้าหมาย และอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจเรามากขึ้น เราจะรณรงค์เรื่องสำคัญของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความไม่เป็นประชาธิปไตย และความไม่เป็นธรรมของรัฐธรรมนูญ 2560 ตนจะเข้าไปฟังปัญหาประชาชน และพบคนทุกกลุ่ม เอาปัญหาเหล่านั้นมาบอกเพื่อนในสภา เพื่อให้ช่วยแก้ไข ดังนั้น ยังมีเรื่องอีกเยอะให้ทำ ตนย้ำมาหลายครั้งว่าอยากสร้างพรรคการเมืองขึ้นมาให้เป็นพรรคที่เข้มแข็ง และยืนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และประชาชนได้ในระยะยาว จึงไม่มีความท้อถอย ไม่เสียใจ จะเดินหน้าต่อไป</h3> <h3>เมื่อถามว่า แนวร่วม 7 พรรคการเมืองยังมีความหวังจะได้ชัยชนะในการเลือกประธานสภาอยู่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนคิดว่ามีแนวโน้มที่ดี 244 เสียงของ7 พรรค จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน จึงไม่ง่ายที่จะคว่ำเสียงของทั้ง 7 พรรค ส่วนเรื่องจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ต้องว่ากันทีละสมรภูมิ วันนี้เอาตำแหน่งประธานสภาก่อน คงต้องแยกส่วนกัน</h3> <h3>เมื่อถามว่า หลังจากนี้ จะเคลื่อนไหวในนามพรรคการเมือง หรือภาคประชาชนบนท้องถนน นายธนาธร กล่าวว่า ตนยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมั่นว่าการได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่ดีที่สุด สงบสุขที่สุด คือการกระทำผ่านรัฐสภา เราเชื่อมั่นอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่มาตั้งพรรคการเมือง เราต้องการดึงศรัทธาของประชาชน กลับมาที่รัฐสภาอีกครั้ง เพราะถ้าประชาชนไม่ศรัทธาและมองว่ารัฐสภาแก้ปัญหาไม่ได้เมื่อไหร่ ประชาชนก็จะไปเรียกร้องให้กองทัพเข้ามาแทรกแซง ประชาธิปไตยในประเทศไทย จึงถูกมองว่าเป็นต้นตอของปัญหา ส่วนการรัฐประหาร และการแทรกแซงจากกองทัพ เป็นทางออก เราต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะรัฐสภาเป็นที่ที่ทรงเกียรติและเหมาะสมที่สุดที่จะแก้ปัญหา พาประเทศกลับไปสู่ประชาธิปไตย ดังนั้น เราจะต่อสู้ให้สุดทาง และยังไม่หมดหวัง</h3> <h3>” นี่เป็นวินาทีที่จะพิสูจน์ว่าอนาคตใหม่ ไม่ใช่แค่ธนาธร ไม่มีธนาธรอยู่ในสภา พรรคอนาคตใหม่ก็จะทำงานได้อย่างสร้างสรรค์ และเข้มแข็ง แล้วเราจะพิสูจน์ให้เห็น” นายธนาธร กล่าว</h3> <h3>ที่มา : <a href="https://www.matichon.co.th/politics/news_1509269">มติชนออนไลน์ </a> ,ภาพจาก ; แนวหน้า</h3>