<h3>วันที่ 13 ก.ย. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณน้ำฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า พบว่าร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ ขณะที่บางพื้นที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย อาจทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในช่วงวันที่ 12-14 ก.ย.นี้</h3> <h3><!--more--></h3> <h3><span style="text-decoration: underline;">พื้นที่ติดตามผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง</span> ได้แก่ กาฬสินธุ์ (อ.กลาไสย), ร้อยเอ็ด (อ.เชียงขวัญ, ทุ่งเขาหลวง, จังหาร, สุวรรณภูมิ, โพนทราย, หนองฮี), ยโสธร (อ.เมืองยโสธร, มหาชนะชัย, ป่าติ้ว), อำนาจเจริญ (หัวตะพาน), ศรีสะเกษ (อ.กันทรารมย์), อุบลราชธานี (อ.เมืองอุบลราชธานี เขื่องใน เดชอุดม วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร)</h3> <h3><span style="text-decoration: underline;">พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากฝนตกหนัก</span> แยกเป็น ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน, เชียงราย, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, แพร่ และน่าน ภาคตะวันเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, สกลนคร, นครพนม และมุกดาหาร ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ระนอง และพังงา</h3> <h3>กอปภ.ก. ได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัด ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวเตรียมพร้อมป้องกันและรับมือสถานการณ์ภัย โดยติดตามข้อมูลสภาพอากาศ ระดับน้ำ และการระบายน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) เครื่องจักรกลสาธารณภัย และเครื่องมืออุปกรณ์เข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการ เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที</h3> <h3>นายชยพล กล่าวต่อว่า รวมถึงประชาสัมพันธ์ข้อมูลแนวโน้มสถานการณ์ภัยแก่ประชาชนผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร อาทิ กลไกฝ่ายปกครอง จิตอาสา เครือข่ายเตือนภาคประชาชน อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์น้ำและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยได้ทัน โดยเฉพาะการขนย้ายทรัพย์สินและเครื่องใช้ขึ้นสูง การเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว สัตว์เลื่อยคลาน และสัตว์มีพิษ</h3> <h3>อีกทั้งหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านเส้นทางที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและน้ำท่วมสูง ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป</h3> <h3>ติดตามสถานการณ์น้ำได้ที่ <a href="http://www.disaster.go.th/th/cdetail-19710-disaster_news-226-1/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88+13+%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99+2562">กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย </a></h3> <h3>เรียบเรียงข้อมูลจาก: <a href="https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2884233">ข่าวสด</a>,<a href="http://www.disaster.go.th/th/cdetail-19710-disaster_news-226-1/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88+13+%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99+2562">กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย </a></h3> <h3></h3>