<h2>กรมการขนส่งทางบกได้ออกระเบียบว่าด้วยการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2561 เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการป้องกันการฝ่าฝืนหรือละเมิดกฎหมายจราจรอย่างเด็ดขาด</h2> <!--more--> <h2>สาระสำคัญของระเบียบดังกล่าว คือ การเพิ่มโทษแก่ผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีทั้งความผิดทั่วไป ความผิดที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ และความผิดร้ายแรง โดยแบ่งโทษออกเป็นหลายระดับ ตั้งแต่โทษปรับ อบรม พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต</h2> <h2><span style="color: #800000;">กลุ่มความผิดทั่วไป</span></h2> <h2>1) กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล หรือกระทำการลามกขณะขับรถ 2) สูบบุหรี่ขณะเป็นผู้ที่ขับรถ 3) ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์พกพาในขณะขับรถ โดยไม่ใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา 4) ไม่ใช้อุปกรณ์หรือส่วนควบของรถ (ปลดหรือถอดเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ แหล่งจ่ายพลังงานหรือสัญญาณ หรือดัดแปลงให้ไม่สามารถส่งข้อมูลการเดินทางของรถได้) 5) ขับรถในเวลาที่ร่างกายหรือจิตใจหย่อนสมรรถภาพ 6) รับบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ระเบิด หรือวัตถุอันตราย โดยฝ่าฝืนข้อห้าม 7) ไม่หยุดหรือจอดรถ ณ สถานีขนส่ง 8) ขับรถเกินกว่าชั่วโมงการทำงานที่กฎหมายกำหนด 9) กระทำการใด ๆ ให้ผู้โดยสารซึ่งชำระค่าโดยสารถูกต้องแล้วต้องลงจากรถก่อนถึงจุดหมายปลายทาง 10) ไม่หยุดรถเพื่อรับหรือส่งผู้โดยสาร ณ ที่ที่มีเครื่องหมายให้หยุดรถ 11) ขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถได้ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุสมควร 12) เรียกเก็บค่าขนส่งหรือค่าบริการผิดไปจากอัตราที่คณะกรรมการกำหนด</h2> <h2>หากทำผิดครั้งที่ 1 จะถูกปรับและอบรม ครั้งที่ 2 จะถูกปรับ พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน และอบรม ครั้งที่ 3 จะถูกปรับ พักใช้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และอบรม โดยโทษปรับนั้น จะปรับไม่เกิน 5,000 บาท</h2> <h2><span style="color: #800000;">กลุ่มความผิดที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ</span></h2> <h2>1) ทำการขนส่ง เช่นเดียวกับ หรือคล้าย หรือแย่งผลประโยชน์ กับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง (เฉพาะกรณีผู้ขับรถเป็นบุคคลเดียวกับผู้ประกอบการขนส่ง) 2) ไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถ (ไม่ล็อกอุปกรณ์ยึดตู้บรรทุกสินค้า ไม่ล็อกอุปกรณ์ต่อพ่วง) 3) ไม่แสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณ เมื่อจำเป็นต้องจอดรถในทางเดินหรือไหล่ทาง 4) บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งผู้โดยสาร 5) ขับรถด้วยอัตราความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 6) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว 7) ขับรถโดยก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือตามสมควร</h2> <h2>ข้อ 1) หากเป็นความผิดครั้งที่ 1 จะถูกปรับและอบรม ครั้งที่ 2 จะถูกปรับ พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และอบรม ครั้งที่ 3 ปรับและเพิกถอนใบอนุญาต โดยโทษปรับนั้นจะปรับตั้งแต่ 50,000 บาทถึง 200,000 บาท</h2> <h2>ข้อ 2) – 7) หากเป็นความผิดครั้งที่ 1 จะถูกปรับและอบรม ครั้งที่ 2 จะถูกปรับ พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และอบรม ครั้งที่ 3 ปรับและเพิกถอนใบอนุญาต โดยโทษปรับนั้นจะปรับไม่เกิน 5,000 บาท</h2> <h2><span style="color: #800000;">กลุ่มความผิดร้ายแรง</span></h2> <h2>1) เสพหรือเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นขณะเป็นผู้ขับรถ 2) เสพยาเสพติดให้โทษขณะเป็นผู้ขับรถ 3) เสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทขณะเป็นผู้ขับรถ 4) ไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบของรถ (ใช้อุปกรณ์ตัดสัญญาณความถี่วิทยุ ทำให้ไม่สามารถส่งข้อมูลการเดินทางของรถได้)</h2> <h2>ข้อ 1) หากเป็นความผิดครั้งที่ 1 จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 30 วัน ครั้งที่ 2 จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 60 วัน ครั้งที่ 3 จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยข้อหาความผิดมีโทษจำคุก ต้องส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี</h2> <h2>ข้อ 2) – 3) หากเป็นความผิดครั้งที่ 1 จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 30 วัน ครั้งที่ 2 จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 60 วัน ครั้งที่ 3 จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และต้องระวางโทษสูงกว่ากฎหมายที่ว่าด้วยยาเสพติดให้โทษหรือกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทกำหนดอีกหนึ่งในสาม โดยข้อหาความผิดมีโทษจำคุก ต้องส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี</h2> <h2>ข้อ 4) หากเป็นความผิดครั้งที่ 1 จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 30 วัน ครั้งที่ 2 จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 60 วัน ครั้งที่ 3 จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ โดยโทษปรับนั้นจะปรับไม่เกิน 5,000 บาท</h2> <h2>อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องร่วมด้วยช่วยกันปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความเต็มใจ เพราะความประมาทเพียงนิด อาจทำให้เสียชีวิต บาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหายได้</h2> <h2></h2>