<h3>ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับโครงการ "คลินิกแก้หนี้" ของรัฐบาล ที่เป็นการจับมือร่วมกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนอย่างเป็นระบบ ให้มีความสามารถในการชำระหนี้ได้มากขึ้น ไม่กลายเป็นหนี้เสียค้างชำระ</h3> <!--more--> <h3>ล่าสุดได้มีการเดินหน้าต่อเนื่องเป็นโครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากโครงการระยะเเรกที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเฉพาะลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย (NPL) ของธนาคารพาณิชย์เท่านั้น</h3> <h3>เนื่องจากกลุ่มลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการไม่ได้เป็นเพียงลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้ในกลุ่ม Non - bank (สถาบันการเงินอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น บริษัทบัตรเครดิต ลีสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต เป็นต้น) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 80 ของทั้งหมดอีกด้วย</h3> <h3>ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้ประชาชนที่มีภาระหนี้ ได้มีโอกาสพ้นวิกฤติทางการเงินและกลับมามีฐานะที่มั่นคงอีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งหนี้นอกระบบ</h3> <h3>จึงมีการปรับเงื่อนไขให้ครอบคลุมลูกหนี้มากขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกหนี้ของ Non - bank ให้สามารถเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ โดยเข้ามาเจรจาที่คลินิกแก้หนี้ที่เดียวก็เหมือนกับได้ติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกราย เรียกได้ว่า "หนี้บัตรทบ จบที่เดียว"</h3> <h3>โดยมีผู้ประกอบการ Non - bank 19 แห่ง เข้าร่วมโครงการ และเมื่อรวมกับธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง ที่ร่วมโครงการอยู่แล้ว จะทำให้โครงการคลินิกแก้หนี้ครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเกือบทั้งระบบ</h3> <h3>สำหรับการช่วยเหลือ คือ จะให้ลูกหนี้ผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยลงจากเดิมที่เคยจ่ายประมาณ 20 - 25% ให้เหลือเพียง 4 - 7% ตามช่วงรายได้ ทำให้ผ่อนต่อเดือน 500 - 1,000 บาทเท่านั้น พร้อมขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 10 ปี และกำหนดให้มียอดชำระต่อเดือนที่ไม่มากเกินไป จนเป็นภาระในการดำรงชีวิต แต่มีข้อกำหนดว่าห้ามก่อหนี้เพิ่มในระยะเวลา 5 ปี</h3> <h3>ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับจากโครงการฯ คือ เป็นการรวมหนี้ และผ่อนชำระในที่เดียว โดยไม่ต้องคอยกังวลว่าจะถูกทวงถามหนี้จากเจ้าหนี้หลายราย อีกทั้งทำให้เกิดการวางแผนทางการเงินที่ดีได้อีกด้วย</h3> <h3>สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ คือ • เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี • มียอดหนี้เงินต้นค้างชำระรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท • ไม่ถูกดำเนินคดี หรือ ถูกดำเนินคดีแต่ต้องยังไม่มีคำพิพากษา • เป็นหนี้เสีย คือ ไม่ได้ชำระหนี้ หรือไม่ได้ชำระขั้นต่ำบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคาร หรือผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินที่เรียกว่า Non - Bank ตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป เป็นระยะเวลานานติดต่อกันมากกว่า 90 วัน และก่อนวันที่ 1 ม.ค. 62</h3> <h3>ผู้สนใจสามารถสมัครเข้ารับคำปรึกษาและร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตามช่องทางการติดต่อนี้ - เว็บไซต์ <a href="https://l.facebook.com/l.php?u=http%3A%2F%2Fwww.debtclinicbysam.com%2F%3Ffbclid%3DIwAR3nptrrza50a2WvbTRXNHr8f8DEO6zqijOk76I1humpyZo594kFaPWNCA8&h=AT1U2AfLJiwqvo9O37oDgVycdxYlSidV_dN21Mt_Vpw03ymokDWdERCJnNoD-WjbIyZChnT4EX25y05F5j5uHYNUhz6AFASPJ5qkSrvPX7CmQVu7IDaHnPPSO1H1Xj4chdUlRv2ckinHzYjbQhjhj_Zm4jfSQ3jyImGBI6YLkkDn7gNbjulCiFluVsPppH597ya2sKjBV4DEfCalkPSv1zETLC1c8Y0DdVqYdeKTgVgpinaEo2lJUAabDbIPv9jILNM78xOnhmkhC3M8ke-nrJCf2lSuzSgR7yVyNvTUDp0Kt2jarLQhqCZ6S-tEFDWXe2ESuS1Syff1TDJ_7qZOqnY4-Hbhr6KNMDNMQdRq8nSMd2-Y5oSALpuyxPJ3Ue6YWKGyONqYsKywqp1jFxYQ0Br3ybld8rdra2XuYjKwSO80rhY9NUdqnOSGazcf-DgHHrF3CIM46eMOYJWn_5gNkLrvdsLY2Ij6KWR6VRZ1Z85LTNvUgMiaKlnBVUi2wSuL5CcA2WZY8OL7AdZne-jbhmJJOnEsqcUxMWzJThbJG6ngvHwSNeUSY4Nz1ceMFAEqKjOzpOc6a4ydMEu7xkmpjmLCd8v_814WKNaL5l7GaKz2WrU6fvxcJS06VxH_Y0GP7t6FZHEyUplhzY9CH091NA">www.debtclinicbysam.com</a> หรือ www.คลินิกแก้หนี้.com - ติดต่อ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด SAM หรือ บสส. กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด 4 สาขา ได้แก่ สาขาสุราษฎร์ธานี ขอนแก่น พิษณุโลก และเชียงใหม่ - สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 0 2610 2266</h3> <h3>โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 60 - ปัจจุบัน มีผู้สนใจสมัครเข้าโครงการถึง 44,600 ราย มีลูกหนี้ที่สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จ 1,500 ราย โดยมีลูกหนี้ที่ชำระหนี้สำเร็จและออกจากโครงการแล้ว 16 ราย</h3> <h3>โครงการคลินิกแก้หนี้ ถือเป็นกลไกที่สำคัญในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศได้อย่างกว้างขวางและครบวงจรอย่างแท้จริง</h3> <h3>ที่มา ไทยคู่ฟ้า</h3>