<h3><!--more--></h3> <h3>สธ. เปิดเวทีชี้แจงแนวทางตรวจ-ส่งต่อผู้ป่วยไวรัสโคโรนา 2019 อนุทิน สั่งอภ.ผลิตหน้ากากเพิ่ม เล็งแจกคนขาดแคลน 1 ล้านชิ้น</h3> <h3>เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เปิดประชุมชี้แจงแนวทางการวินิจฉัย การเฝ้าระวัง และการส่งต่อผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยมีผู้ประกอบกิจการ ผู้ดำเนินการ และผู้ที่เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ 383 แห่ง ร่วมรับฟังแนวทางการคัดกรอง เฝ้าระวัง ดูแลรักษา การส่งต่อผู้ป่วย และตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อฯ</h3> <img class=" wp-image-14851 aligncenter" src="https://katipnews.com/wp-content/uploads/2020/02/akf5blymd7kgc04ck8-400x284.jpg" alt="" width="563" height="400" /> <h3>นายอนุทิน กล่าวภายหลังเปิดการประชุมว่า หลังจากเกิดปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย จึงสั่งให้องค์การเภสัชกรรมผลิตเพิ่มและให้นำหน้ากากอนามัย 1 ล้านชิ้น มามอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปแจกให้กับผู้ขาดแคลน เพื่อให้ได้เพียงพอในกลุ่มคนเสี่ยง ที่มีความจำเป็นต้องใช้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรยังไม่ได้กำหนด</h3> <h3>นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี สบส. กล่าวว่า ในการประชุมหารือร่วมกับสถานพยาบาลเอกชน เพื่อควบคุมแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากร้อยละ 40 ของผู้ป่วยที่ของข่ายเฝ้าระวัง และมีการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล มาจากโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งขณะนี้มีแนวคิดให้โรงพยาบาลเอกชนแยกห้องตรวจไข้หวัด ออกจากห้องตรวจโรค 1422 เพื่อส่งต่อ โดยไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยเดินทางไปรับการรักษาต่อด้วยตนเอง</h3> <h3>นอกจากนี้ ยังเพิ่มห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แล็บ) ในการตรวจยืนยันเชื้อ ให้กับโรงพยาบาลเอกชน จากเดิม มีแค่ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และรพ.จุฬาลงกรณ์ มาเป็นโรงพยาบาลรัฐ สังกัดมหาวิทยาลัยเพิ่มอีก 1 แห่ง หรือดึงความร่วมมือจากห้องปฏิบัติการเอกชนที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับมาร่วมตรวจ และย้ำว่าต้องไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยแต่ให้รายงานมาที่กระทรวงสาธารณสุข ขณะเดียวในการตรวจเฝ้าระวังในประชาชนทั่วไป จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาฯ ขอให้เน้นในกลุ่มเสี่ยงที่ทำงานสัมผัสใกล้ชิดคนต่างชาติ หรือทำงานระบบขนส่งด้วย เพื่อการเฝ้าระวังที่ครอบคลุม</h3> <h3>นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชฯ ได้มีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งได้เร่งเพิ่มการสำรองหน้ากากและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคในรูปแบบต่างๆ ให้มากขึ้น และจำหน่ายในราคาตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และแบ่งบรรจุขายห่อละ 10 ชิ้น โดยในระยะนี้ร้านขายยาขององค์การเภสัชทุกสาขาจะมีการแบ่งการจำหน่ายเป็น 2 รอบ รอบที่ 1 เวลา ประมาณ 08.00 น. รอบที่ 2 เวลาประมาณ 12.00 น. โดยในเบื้องต้น 1 คน จะได้รับหน้ากากอนามัยชนิดเขียวขาว 10 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 2 หลอด ทั้งนี้จะมีการประเมินและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์</h3> <h3>นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า เรามีกำลังการผลิตรวม 1.4 ล้านชิ้นต่อวัน จากการหารือร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทยซึ่งมี 12 รายทั่วประเทศ จึงได้ขอให้มีการผลิตมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ภายในประเทศ ลดการส่งออก</h3> <h3>ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วันนี้ (6 ก.พ.) นี้ ได้รับรายงานว่าผู้ป่วยชาวจีนที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีและมีการใช้ยาสูตรผสมคือยาต้านไวรัสเอดส์และยาแก้ไข้หวัดใหญ่นั้น ขณะนี้อาการดีขึ้นมาก ผลการตรวจเชื้อเมื่อวันที่ 5 ก.พ.นั้นไม่พบเชื้อแล้ว ดังนั้นจะรอผลตรวจเชื้อในวันที่ 7 ก.พ.อีกครั้งหากไม่พบเชื้อก็จะทำการอนุญาตให้ผู้ป่วยออกมาพักรักษาตัวต่อในห้องพิเศษได้</h3> <h3>ข้อมูข่าวจาก : <a href="https://katipnews.com">เดลินิวส์</a></h3> <hr /> <h3 style="text-align: center;"><a href="https://katipnews.com">อ่านข่าวอื่นๆได้ที่นี่</a></h3>