<h3>ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่รัฐสภา มีการประชุมสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีกระทู้ถามจาก นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา เรื่อง ปัญหาคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องติดตามตัวอิเลกทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม ถึงการตรวจสอบมาตรฐานการใช้งานกำไลอีเอ็มของภาครัฐ โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตอบกระทู้ดังกล่าว</h3> <h3><!--more--></h3> <h3>นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนทราบว่าทาง ส.ว.ได้ทำการตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือน ส.ค.2562 แล้ว แต่ติดภารกิจจึงไม่ได้มาชี้แจง ไม่ได้หลีกหนี หรือหลบเลี่ยงแต่อย่างใด แต่ติดภารกิจอันเป็นวาระสำคัญของประเทศ ซึ่งก็สำคัญไม่แพ้การประชุม ส.ว.วันนี้จึงมาตอบกระทู้ถามในกรณีนโยบายการตรวจสอบกำไลอีเอ็ม</h3> <img class=" wp-image-14432 aligncenter" src="https://katipnews.com/wp-content/uploads/2020/01/สว-400x267.jpg" alt="" width="664" height="443" /> <h3>โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังทำสัญญาชุดใหม่ ที่ต้องผ่านความเห็นชอบของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีรายละเอียดตามหลักสากล คือใส่บริเวณข้อเท้า ไม่สามารถถอดออกได้ แต่ปกปิดได้ด้วยการใส่กางเกงขายาว ซึ่งได้รับรองจากหน่วยงานต่างประเทศว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ รองรับการทำงานเครือข่าย 3 จี ขึ้นไป สามารถใช้ติดต่อในพื้นที่ทุรกันดารของประเทศได้ สำหรับผู้ต้องหาที่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะใช้กำไลอีเอ็มนั้น กระทรวงยุติธรรม ได้มีกองทุนในการประกันตัว และจัดหาทนายความ เพื่อช่วยเหลือผู้มี่รายได้น้อย และลดความเหลื่อมล้ำในการใช้กำไลอีเอ็มอยู่แล้ว</h3> <h3>ในอนาคตจะลดจำนวนคนในเรือนจำโดยการใช้กำไลอีเอ็ม ตั้งเป้าไว้ที่จำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสน โดยปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ใชกำไลอีเอ็ม 3,333 คน ผู้ถูกคุมความประพฤติ 3,200 คน และนักโทษ 105 คน ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ โดยหลังจากใช้กำไลอีเอ็มคน 3 กลุ่มนี้ถูกประเมินผลจากศาล พร้อมกับคนในครอบครัวและชุมชนว่า ผลประเมินออกมาดีขึ้น คือผู้ต้องหาที่ใส่มีวินัยดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการทำผิดซ้ำได้ ทำให้สังคมรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น</h3> <h3>ขณะที่ผู้ใส่กำไลอีเอ็มแล้วหลบหนีปัจจุบันมีจำนวน 47 ราย มีเจตนาหลบหนีโดยชัดเจน 8 ราย มีเจตนาฝ่าฝืนเงื่อนไข 39 ราย ซึ่งทางศาลได้ออกหมายจับ และดำเนินคดีแล้ว.</h3> <h3>ขอบคุณข่าวจาก: <a href="https://www.one31.net/news/detail/17828?fbclid=IwAR0uJSQJEU9Xg-JQUCXBQsSYYXGqJkKZ2f80IdE51uJBs9UOqD2tNeOKzbk#.XhwIiXtKEK0.facebook">one31</a></h3> <hr /> <h3 style="text-align: center;"><a href="http://www.kaipnews.com">อ่านข่าวได้ที่ www.katipnews.com</a></h3>