วันที่ 23 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวน สอบสวน รวมทั้งซักถามปากคำผู้ต้องหาไว้ได้มาก ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ในเรื่องนี้ได้มีการจ้างวานให้นายสับ วาปี มาเป็นผู้รับผิดแทนนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร โดยมีการจ้างวานกัน เป็นเงิน 400,000 บาท จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ชัดเจนว่า มีกระบวนการเกิดขึ้น นับตั้งแต่วันที่ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษ จำคุกครูจอมทรัพย์ หลังจากนั้นก็มีกระบวนการดำเนินการเพื่อที่จะสร้างพยานหลักฐานขึ้นมา เพื่อมีการรื้อฟื้นคดีใหม่ โดยหลังจากที่ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษครูจอมทรัพย์แล้ว ได้มีกระบวนการไปยื่นฎีกา ในกรณีนี้ทางกลุ่มครูจอมทรัพย์ได้มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้มีการไปยื่นฎีกาและทางสำนักราชเลขาธิการแนะนำว่า ต้องนำตัวผู้กระทำผิดตัวจริงนั้นมาลงโทษ ถึงจะนำผลคดีนั้นไปยื่นฎีกาได้
ทางฝ่ายของนายสุริยา นวนเจริญ หรือ ครูอ๋อง ทีมงานของครูจอมทรัพย์ ก็จึงไปเข้าสู่กระบวนการหาคนมารับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ซึ่งในช่วงแรกนั้นได้ไปนำตัวบุคคลที่ขับรถไม่เป็น และไม่มีใบขับขี่มาเป็นผู้รับผิดแทนครูจอมทรัพย์ แต่ปรากฏว่า ทางทีมของพนักงานสืบสวนสอบสวน ผู้รับแจ้งไปทำการให้บุคคลผู้นั้นเป็นผู้ขับขี่รถชนผู้ตายนั้น กับนำชี้ที่เกิดเหตุไม่ได้และไม่สามารถให้รายละเอียดของคดีที่เกิดขึ้นได้ ต่อมาทีมงานของครูจอมทรัพย์จึงเปลี่ยนผู้ขับขี่รถเกิดเหตุเป็นคนใหม่ เป็นนายสับ และท้ายสุดนายสับ ก็รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมว่าตัวเองได้รับการจ้างวานมาให้รับผิดแทนครูจอมทรัพย์ หลังจากนั้นนายสับ ก็ถูกเข้าเครื่องจับเท็จ เครื่องจับเท็จแสดงผลว่า นายสับ ได้กล่าวเท็จ และนายสับ ก็ได้รับสารภาพในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดต่อเจ้าหน้าที่เครื่องจับเท็จ ของกระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้นมา นายสับ ก็มาที่ศาลในวันพิจารณาของศาล แต่นายสับ นั้น ไม่ได้ถูกนำตัวขึ้นศาล เพราะนายสับ ประกาศว่า จะขอรับสารภาพเรื่องจริงบนศาล และในที่สุดศาลก็พิพากษายกคำร้องของครูจอมทรัพย์ ซึ่งครูจอมทรัพย์ ทราบอยู่ก่อนแล้วว่า นายสับ จะกลับคำให้การ จึงไม่ให้นายสับ ขึ้นเบิกความ
ทีมงานครูจอมทรัพย์รู้เห็นด้วย มีผู้ที่รู้เห็นหลายคน ผู้ร่วมกระบวนการ ผู้ที่รู้เห็นทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีทั้งหมดทุกคน ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทุกคนที่ร่วมกันปั้นน้ำเป็นตัว ทุกคนที่สร้างสถานการณ์ ทุกคนที่แสดงละครบนบัลลังก์ของศาล ทุกคนที่แจ้งความเท็จ จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด
นายสับ กับ ครูอ๋อง ที่มีการว่าจ้างเบื้องต้นเป็นการวางแผนที่แยบยลมาก ถ้าไม่ใช่พนักงานสอบที่มีความละเอียดรอบคอบ ก็คงจะตกหลุมพรางและเป็นเครื่องมือของขบวนการกลุ่มนี้ ขบวนการกลุ่มนี้ตรวจสอบว่าทะเบียนรถที่ตรงกับรถคันที่ก่อเหตุนั้น มีใครบ้างที่อยู่ในประเทศไทย ก็ไปพบว่า มีรถอยู่คันหนึ่ง ที่มีหมายเลขทะเบียนตรงกันทั้งหมวดตัวอักษรและหมายเลขทะเบียน แต่คนละจังหวัด เป็นจังหวัดมุกดาหาร และรถคันจังหวัดมุกดาหาร เป็นรถของนายสับฯ ก็จึงวางแผน ให้คนไปกล่าวหานายสับ ว่านายสับ เป็นผู้ขับรถชนคนตายแล้วหลบหนีมา นายสับ ก็แจ้งยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ ปรากฏว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว ก็เชิญนัดหมายนายสับ ให้ไปพูดกันที่บ้านของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง นายสับ ก็ปฏิเสธเช่นเดิม แล้วก็บอกว่า ไม่มีทางที่จะขับรถชนคนตายได้ เพราะได้ขายรถไปก่อนเกิดเหตุถึง 2 ปี กลุ่มคนดังกล่าวก็ให้พาไปพบคนที่ซื้อรถจากนายสับ ไป ก็คือผู้ใหญ่บ้าน ซื้อไปจริงก่อนเกิดเหตุ 2 ปี แล้วก็ขายรถให้กับคนชื่อ อุบล
เนื่องจากรถสภาพเก่ามาก ได้ขายเป็นเศษเหล็กไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนเกิดเหตุ แสดงว่า รถของนายสับ นั้น เป็นเศษเหล็กไปก่อนเกิดเหตุ จึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่นายสับ จะขับรถชนคนตาย หลังจากนั้น ทางกลุ่มของครูจอมทรัพย์ จึงเปลี่ยนแผนใหม่ ให้นายสับ ให้การเท็จว่า ขายรถให้นายเสริฐ รูปสะอาด โดยจะให้ค่าจ้างให้การเท็จ 100,000 บาท และนายเสริฐ ได้รับ 200,000 จึงเป็นต้นเรื่องของการที่พานายประเสริฐไปลงประจำวันที่ สภ.เรณูนคร ว่านายเสริฐ เป็นผู้ขับขี่รถ ปรากฏตามบันทึกประจำวันของ สภ.เรณูนคร ครั้นนายเสริฐ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการซักถาม นายเสริฐไม่สามารถนำชี้ที่เกิดเหตุได้ นายเสริฐ ขับรถไม่เป็น ไม่มีใบขับขี่ นายเสริฐ จึงขอถอนตัวจากการเป็นแพะ เพื่อช่วยเหลือครูจอมทรัพย์
จากนั้นมา ขบวนการของครูจอมทรัพย์ จึงกลับไปว่าจ้าง นายสับ ให้เป็นผู้เบิกความเท็จ รับว่าเป็นผู้ขับขี่รถชนผู้ตาย โดยว่าจ้าง 400,000 บาท จนในที่สุด นายสับ ก็ไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ และรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ประจำเรื่องจับเท็จของกระทรวงยุติธรรม ว่า ตัวเองถูกจ้างวานมา สารภาพแทนครูจอมทรัพย์
ขณะนี้อยู่ระหว่าง รวบรวมพยานหลักฐาน ที่ทราบมีทนายประจำทีม ในการสร้างพยานหลักฐานเท็จครั้งนี้ ในการตั้งพยานอยู่หลายคน ซึ่งข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าเป็นใครบ้าง ขณะนี้ทางทีมงาน นำโดย พล.ต.ต.สุวิชาญ ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้จัดทีมขึ้นมา เพื่อทำเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว คิดว่าเรื่องนี้จะเสร็จสิ้นโดยเร็ว และจะทราบข้อเท็จจริงอย่างชัดแจ้ง ว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง มีใครถูกออกหมายจับบ้าง โดยเร็ว จะนำตัวนายสับ ไปทำแผนว่า รับเงินกันที่บริเวณหน้าศาล จังหวัดนครพนม ที่กลุ่มของครูจอมทรัพย์มามอบให้ตอนไหน
ที่มา : มติชนออนไลน์