คลังเคาะแจกบัตรคนจนเพิ่มอีก 3.1 ล้านราย พร้อมเปิดให้ยื่นอุทธรณ์สิทธิ์กรณีไม่ผ่านคุณสมบัติ ถึงสิ้นเดือน พ.ย.นี้ โชว์ลุยคืนเงินแวตแล้วช่วง 1- 14 พ.ย. 9 ล้านบาท
แจกบัตรคนจนอีก 3.1 ล้านราย /นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีการเปิดลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนในรอบปกติได้ ระหว่างวันที่ 15 พ.ค.-30 มิ.ย. 2561 พบว่ามีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 4.5 ล้านราย และมีผู้ผ่านคุณสมบัติได้รับสิทธิจำนวน 3.1 ล้านคน คิดเป็น 68% ของผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด และสามารถรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค. 2561 เริ่มใช้บัตรได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป
ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านสิทธิสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานที่ไม่ผ่านสิทธิโดยตรงระหว่างวันที่ 16-30 พ.ย. นี้ โดยกระทรวงการคลังจะประกาศผลการอุทธรณ์อีกครั้งในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2561
สำหรับความคืบหน้ามาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้ข้อมูลจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีแวต) ว่า ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ พ.ย. 2561 โดยมีข้อมูลการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1-14 พ.ย. 2561 อยู่ที่ 5.57 แสนราย คิดเป็นเงิน 145 ล้านบาท มีจำนวนภาษีแวตกว่า 9 ล้านบาท โดยพร้อมในการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว จำนวน 5% เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้แก่ผู้มีสิทธิผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อนำไปใช้จ่ายต่อไป และเงินชดเชยอีก 1% เพื่อการออมเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารชนิดพิเศษที่กรมบัญชีกลางให้ธนาคารเปิดให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ขณะที่ความคืบหน้าของร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ร้านค้าเอกชนอื่นที่จดทะเบียนภาษีแวต และสมัครเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว มีจำนวน 4.24 พันร้านค้า โดยผู้มีสิทธิจะได้รับเงินชดเชยต่อเมื่อชำระราคาสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งจากวงเงินกระเป๋าสวัสดิการ 200-300 บาทแล้วแต่กรณี และวงเงินที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเติมเองใน e-Money ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่จดทะเบียนภาษีแวต และรับชำระราคาสินค้าผ่านเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 แล้วเท่านั้น
ทั้งนี้ ร้านค้าเอกชนอื่นที่สมัครเข้าร่วมมาตรการ ให้สังเกตสัญลักษณ์สติ๊กเกอร์ “จ่ายด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money PromptCard)” โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้ได้เฉพาะส่วนของเงินใน e-Money เท่านั้นในการชำระราคาสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็จะได้รับเงินชดเชยคืนเช่นกัน
“ร้านค้าที่พร้อมเข้าร่วมโครงการ จำนวน 4.24 พันร้านค้านี้ มีทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าเอกชน แต่หากดูในรายละเอียดแล้วจะพบว่า ปัจจุบันมีร้านธงฟ้าประชารัฐ จำนวน 3.06 หมื่นร้านค้า แต่เป็นร้านค้าที่มีการจดทะเบียนภาษีแวต และมีคุณสมบัติพร้อม เพียง 3.88 พันร้านค้าเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีร้านธงฟ้าขนาดเล็กที่ตอบรับการติดเครื่อง POS เพียง 940 ร้านค้าเท่านั้น จากทั้งหมด 2.31 พันร้านค้า โดยส่วนใหญ่ปฏิเสธ และให้เหตุผลว่ายังไม่พร้อม รวมถึงกลัวโดนตรวจสอบภาษีด้วย” นายลวรณ กล่าว
ข้อมูลข่าวสารจาก