จ.มหาสารคาม ผลักดันแผนฟื้นคืนชีวิตสายน้ำลำห้วยผักหนาม ต.งัวบา อ.วาปีปทุม หล่อเลี้ยงชุมชนใน 4 ตำบล ต้นแบบพลังจิตอาสาพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง
วันที่ (26มี.ค.61)ที่ห้องประชุมโรงเรียนงัวบาวิทยาคม ตำบลงัวบา อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม นายจิตติ สุวรรณิก ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมความพร้อมและขับเคลื่อน โครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับคณะกรรมการชุมชนต้นแบบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดยนายกองโท ดร.คมคาย อุดรพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม โดยการลงพื้นที่ของคณะทำงานฯครั้งนี้ เป็นการชี้แจง ประสานงาน และรวมรวบแผนงาน โครงการการพัฒนาชุมชนริมน้ำ หลังจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้คัดเลือกชุมชนสองฝั่งลำน้ำห้วยผักหนาม ในพื้นที่ 4 ตำบล เป็นชุมชนต้นแบบดำเนินตามโครงการดังกล่าว ตามโครงการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายมาก่อนหน้านี้
จากนั้น นายจิตติ สุวรรณิก ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่จริงเพื่อรวบรวมข้อมูลบริเวณลำห้วยผักหนาม บ้านโคกไร่ใหญ่ หมู่ 7 ตำบลงัวบา ซึ่งมีสภาพตื้นเขิน มีวัชพืชปกคลุมหนาแน่น ขาดการพัฒนาจนไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งได้เพียงพอ พร้อมทั้งได้พบปะประชาชน สร้างความเข้าใจการดำเนินโครงการ ว่าจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดมาจากความต้องการของคนในชุมชนอย่างแท้จริง รวมทั้งต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากคนในชุมชน และมีหน่วยงานภาครัฐมาบูรณาการช่วยเหลือสนับสนุนทุกด้าน โดยหลังจากลงพื้นที่ในครั้งนี้แล้ว จะรวบรวม ศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนงาน โครงการของชุมชน แล้วนำเสนอปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อประกอบการพิจารณาสนับสนุนโครงการต่อไป
นายจิตติ สุวรรณิก ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชน และมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยได้ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หน่วยงานราชการในพระองค์ ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสา จัดการบำเพ็ญประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและอื่นๆ โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดทำโครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน และได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกแห่ง ร่วมกับเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ คัดเลือกชุมชนต้นแบบ จังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว
สำหรับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อฟื้นคืนชีวิตสายน้ำให้กับพื้นที่ชุมชนที่แห้งแล้ง ตามความต้องการของชุมชน คือ 1.การขุลอกลำน้ำให้เป็นระบบตลอดสาย โดยพัฒนเป็นสายน้ำหนึ่งคลองสองถนน มีฝายกักเก็บน้ำตามแบบมาตรฐาน รถสามารถสัญจรได้เป็นระยะ คันห้วยสองฝั่งมีการบดอัดคันดินใส่หินลูกรังผิวจราจรตลอดสาย 2.ขุดลอกสระหนอง, บึง และอ่างเก็บน้ำหมู่บ้านที่สายน้ำไหลผ่าน หรือทำเป็นธนาคารน้ำตลอดสายน้ำ 3.พัฒนาส่งเสริมอาชีพให้ราษฎร ที่ทางน้ำไหลผ่านตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ อย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มผลผลิตและรายได้ 4.ยกระดับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์การเรียนรู้วิถีชุมชนในอนาคต
ส่วนงบประมาณตามแผนที่จะดำเนินการ ได้แก่ ขุดลอกลำห้วยความยาว 22.5 กิโลเมตร งบประมาณ 37,800,000 บาท ก่อสร้างฝายกักเก็บน้ำและระบบส่งน้ำทางท่อเพิ่ม 15 แห่ง แห่งละ 1,500,000 บาท เป็นเงิน 22,500,000 บาท ลงหินลูกรังและบดอัดคันดินสองฝั่งลำห้วยทั้งสองฝั่งลำห้วย รวมความยาว 45 กิโลเมตร งบประมาณ เป็นเงิน 9,000,000 บาท ขุดลอกหนองน้ำแก้มลิง ทุกตำบล 480,000 เป็นเงิน 16,800,000 บาท ส่งเสริมอาชีพ ตำบลละ 2,000,000 บาท เป็นเงิน 8,000,000 บาท และยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวตำบลละ 3,000,000 บาท เป็นเงิน 12,000,000 บาท รวมงบประมาณพัฒนาทั้งระบบในอนาคต 89,300,000 บาท ใช้ระยะเวลา 5 ปี ปีละ 17,860,000 บาท
ข้อมูลจาก:ส.ปชส.มหาสารคาม