<h3>กอปภ.ก. สั่งการ 19 จังหวัดภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 28 – 31 สิงหาคม 2562</h3> <h3><!--more--></h3> <h3>วันนี้ (28 ส.ค.62) นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น คลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงลาดเชิงเขา พื้นที่เสี่ยงลุ่มต่ำของประเทศไทย เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ส่วนพื้นที่เสี่ยงชายฝั่งทะเลจะมีคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ระหว่างวันที่ 28 – 31 สิงหาคม 2562 ทั้งนี้ กอปภ.ก. ได้ประสาน 19 จังหวัด แยกเป็นดังนี้</h3> <h3><span style="text-decoration: underline;">พื้นที่ต้องติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก</span></h3> <h3><strong><span style="text-decoration: underline; color: #0000ff;">ภาคกลาง</span></strong> ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์</h3> <h3><span style="text-decoration: underline;"><span style="color: #0000ff; text-decoration: underline;">ภาคตะวันออก</span></span> ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด</h3> <h3><span style="color: #0000ff;"><strong><span style="text-decoration: underline;">ภาคใต้</span></strong></span> ได้แก่ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล</h3> <h3><span style="text-decoration: underline;">พื้นที่ต้องติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากดินถล่ม</span></h3> <h3><span style="text-decoration: underline; color: #0000ff;">ภาคกลาง</span> ได้แก่ กาญจนบุรี (อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี อำเภอไทรโยค อำเภอบ่อพลอย) จันทบุรี (อำเภอเขาคิชฌกูฏ อำเภอขลุง) ตราด (อำเภอเขาสมิง อำเภอบ่อไร่ อำเภอคลองใหญ่)</h3> <h3><span style="text-decoration: underline; color: #0000ff;">ภาคใต้</span> ได้แก่ ระนอง (อำเภอเมืองระนอง อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น อำเภอกะเปอร์) พังงา (อำเภอเมืองพังงา อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง อำเภอ คุระบุรี) ภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกระทู้ อำเภอถลาง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเกาะลันตา อำเภอเขาพนม อำเภอปลายพระยา) ตรัง (อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว อำเภอปะเหลียน) สตูล (อำเภอควนกาหลง อำเภอควนโดน อำเภอทุ่งหว้า อำเภอมะนัง อำเภอละงู)</h3> <h3><span style="text-decoration: underline;">พื้นที่ต้องติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากคลื่นลมแรง</span></h3> <h3><span style="text-decoration: underline; color: #0000ff;">ภาคตะวันออก</span> ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล</h3> <h3>รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด</h3> <h3>สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป</h3> <h3>ภาพ/ข้อมูลข่าว: <a href="https://workpointnews.com/2019/08/28/ปภ-สั่ง-19-จังหวัดเตรียมรั/">workpointnews</a></h3> <h3></h3>