ทุกนาทีมีค่า! สั่งระดมเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำท่วมถ้ำหลวง ผู้ว่าฯ เชียงราย ประสานชลประทานปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองน้ำพุที่อยู่ด้านล่างถ้ำ เพื่อหวังลดระดับน้ำภายในถ้ำอีกทางด้วย
จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอลและโค้ชผู้ฝึกสอน รวม 13 คน หายเข้าไปใน ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน วนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ หน่วยซีล หรือ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ได้เข้าไปในถ้ำเพื่อหาร่องรอยและช่วยเหลือแล้วตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 มิ.ย.
ช่วงเช้าวันที่ 25 มิ.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) หรือหน่วยซีล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าไปภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้องวัด ม.9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการค้นหานักฟุตบอลเยาวชน และผู้ฝึกสอนทั้ง 13 ชีวิตอย่างเต็มที่ โดยครอบครัวผู้สูญหายต่างเฝ้ารอและติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดบริเวณปากถ้ำ
โดยเจ้าหน้าที่หน่วยซีลยังคงเดินหน้าค้นหา แต่ยังไม่พบตัวเด็ก เจอเพียงร่องรอยที่เชื่อได้ว่าทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตอนนี้ยังเจอปัญหา เนื่องจากในถ้ำยังมีน้ำท่วมเป็นช่วงๆ บางจุดถึงมิดหัว จึงอาจเป็นเรื่องยากหากพบตัวทั้ง 13 ชีวิตแล้วจะช่วยพาออกมาได้อย่างง่ายดาย เบื้องต้นจึงประสานไปยังกรมชลประทาน ดูความเป็นไปได้ในการสูบน้ำออกจากถ้ำ เพื่อช่วยทั้ง 13 ชีวิตออกมา
สำหรับความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า บริเวณเหนือถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มีปล่องที่ทะลุออกมานอกถ้ำได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจบริเวณเหนือถ้ำ ก่อนเจอปล่องตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน โดยปล่องดังกล่าวมีระยะห่างจากโถงจุดแรกภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ประมาณ 800 เมตร แต่ภายในถ้ำจะมีเส้นทางที่คดเคี้ยวและระยะทางที่ยาวกว่านั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่จึงโยนอาหารและขนมลงไปในปล่องดังกล่าว พร้อมกระดาษที่เขียนขอความว่า ถ้าเจอขนมให้หยุดรอหน่วยซีล กำลังเดินไปตามหาทาง 7 ก.ม. นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมสำรวจเส้นทางของปล่องที่อยู่เหนือถ้ำด้วย
จากนั้นเวลา 17.45 น. เจ้าหน้าที่หน่วยซีลต้องยุติการค้นหาบริเวณโถงกลางในถ้ำหลวงฯชั่วคราว หลังน้ำเริ่มท่วมปิดปากถ้ำ ทำให้มีความเสี่ยงและอาจได้รับอันตราย แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ทั้ง 13 ชีวิตยังมีชีวิตอยู่ จากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนเข้าช่วยเหลืออีกครั้ง
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจโดยรอบเหนือถ้ำหลวง ซึ่งพบปล่องที่คาดว่าจะทะลุตัวถ้ำ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าด้านบนของปล่องเหนือถ้ำถูกปิดไปแล้ว เนื่องจากมีดินสลได์ลงมาปิดปากปล่องดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกลับมาประเมินสถานการณ์ถึงแผนปฏิบัติการช่วยเหลืออีกครั้ง โดยในวันที่ 26 มิ.ย. เจ้าหน้าที่เตรียมใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจโดยรอบเหนือถ้ำหลวงอีกรอบ เพื่อหาทางช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต โดยเจ้าหน้าที่อาจต้องใช้การเจาะทะลุเข้าไป
ด้านผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งการให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำจากภายในถ้ำออกมา พร้อมประสานชลประทานปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองน้ำพุที่อยู่ด้านล่างถ้ำ เพื่อหวังลดระดับน้ำภายในถ้ำอีกทางด้วย
ที่มา: