เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากน้าสาวของพลทหารคชา พะชะ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ส.ค. แฟนสาวของเพื่อนหลานโทรมาบอกกับภรรยาของหลานว่า หลานเข้าโรงพยาบาล โดยมีการหัวใจหยุดเต้น แต่ไม่แจ้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร พ่อของหลานจึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่ค่าย มีนายทหารคนหนึ่งรับสาย แต่ไม่ทราบรายละเอียด บอกแค่ว่าไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีนายทหารอีกคนหนึ่งโทรมาหาพ่อหลานว่า หลานกำลังจัดสัมภาระเตรียมจะเข้าป่าไปฝึก แล้วอยู่ดีๆ หลานก็น็อก จึงนำส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล ซึ่งห่างจากค่ายประมาณ 15 นาที
น้าพลทหารคชา กล่าวต่อว่า ต่อมาประมาณตี 2 วันที่ 22 ส.ค. คุณหมอได้โทรมาบอกกับพ่อและแม่ของหลานว่า หลานหัวใจหยุดเต้น ได้ทำการปั๊มหัวใจมา 15 นาทีแล้ว ถ้าปั๊มแล้วยังไม่ขึ้นจะให้ปั๊มต่อหรือไม่ เพราะเขากลัวว่าซี่โครงจะหัก พ่อกับแม่ก็ยืนยันว่าให้ปั๊มจนกว่าหัวใจจะเต้น จากนั้นแม่และภรรยาของหลานได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 6 โมงเช้า พบว่าหลานอยู่ในห้องไอซียู และใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งคุณหมอบอกว่าโอกาสรอดมีแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ และให้แม่ทำใจ ถ้าฟื้นขึ้นมาอาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะสมองขาดออกซิเจนนาน เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นไป 2-3 ครั้ง ตอนมาถึงโรงพยาบาลก็มีอาการไตวายด้วย
น้าพลทหารคชา กล่าวอีกว่า แม่ได้เข้าไปหาหลานที่ห้องไอซียู หลานก็ลืมตามอง และน้ำตาไหล ก่อนหลับไป แต่ยังขยับร่างกายไม่ได้ จากนั้นช่วงสาย พ่อหลานก็โทรไปหานายทหารคนหนึ่งซึ่งมียศพันโทว่า น้องไม่น่าน็อกไปเอง เพราะไม่มีโรคประจำตัว และเป็นคนแข็งแรง อยู่ดีๆ จะน็อกไปได้อย่างไร นายทหารคนดังกล่าวก็ยอมรับกับพ่อว่ามีพลทหารรุ่นพี่ 3 คน ทำการซ่อมหลานจริง เขาจับทั้ง 3 คน ขังคุกทหารไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีอะไร เบื้องต้นทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าซ่อมรุ่นน้องจริง นายทหารคนดังกล่าวก็บอกว่าจะรักษาและดูแเลเต็มที่ แต่ไม่อยากให้เป็นข่าว