ธ.ก.ส. แจงกรณีการโอนเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 งวดแรก เมื่อ 16 พ.ย. ไม่ครบหรือเกินกว่าจำนวนจริง จากข้อผิดพลาดของการสลับชนิดข้าวทำให้การคำนวณคลาดเคลื่อน พร้อมเร่งโอนเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนในวันที่ 18 พ.ย.
ธ.ก.ส. แจงกรณีการโอนเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 งวดแรก เมื่อ 16 พ.ย. ไม่ครบหรือเกินกว่าจำนวนจริง จากข้อผิดพลาดของการสลับชนิดข้าวทำให้การคำนวณคลาดเคลื่อน พร้อมเร่งโอนเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนในวันที่ 18 พ.ย. และชี้แจงทำความเข้าใจลูกค้าเพื่อดึงเงินส่วนที่เกินคืนต่อไป
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ประกันรายได้ข้าว เตือนเกษตรกรรีบตรวจสอบสิทธิ ด่วน!
- ธ.ก.ส. ดีเดย์ 16 พ.ย. เริ่มจ่ายเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64
- ครม.เห็นชอบ ร่างแก้กฎหมายอาญา ท้องไม่เกิน 3 เดือน ทำแท้งได้
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธ.ก.ส. ได้มีการโอนเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 งวดที่ 1 โดยใช้ข้อมูลเกษตรกรผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร (กสก.) ซึ่งมีวันเก็บเกี่ยว รอบที่ 1 ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 เข้าบัญชีเงินฝากเกษตรกรโดยตรง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 จํานวน 786,380 ราย จํานวนเงิน 8,387.06 ล้านบาทนั้น โดยตรวจพบข้อผิดพลาดในการคำนวณเงินชดเชยสลับชนิดข้าว กล่าวคือ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเจ้าซึ่งได้รับชดเชยส่วนต่าง ตันละ 1,222.36 บาท กับข้าวหอมปทุมธานีที่ได้รับการชดเชยส่วนต่างตันละ 1,066.96 บาท จึงทำให้มีเกษตรกรจำนวน 409,917 ราย ซึ่งปลูกข้าวเจ้าและข้าวหอมปทุมธานีไม่ได้รับเงินตามจำนวนที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส. ได้เร่งแก้ไขโดยการโอนเงินเพิ่มเติมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเจ้าครบตามจำนวน ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 และมอบหมายให้สาขาในพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจแก่เกษตรกรในกรณีที่ต้องดึงเงินส่วนที่เกินคืนจากบัญชีเงินฝากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้เกษตรกรสามารถตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินได้ผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าออกบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่เกษตรกรลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC