ผบก.ตร.นครพนมสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีพ่อแม่ร้องทุกข์ตำรวจจราจรสายโหดไล่บี้ตามจับลูกชายวัย 14 ปี หลังแหกด่านหนีจับหมวกกันน็อกชนต้นไม้ดับ ตั้งทีมพิสูจน์หลักฐานตรวจจุดเกิดเหตุเพิ่ม ยันให้ความเป็นธรรมสองฝ่าย
วันนี้ (28 พ.ย.61) พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมนึก มิควาฬ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบ เก็บหลักฐาน สอบสวนพยานเพิ่มเติม กรณีนายเฉลา และนางนิตยา อินทะวงษ์ และญาติพี่น้องออกมาร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองนครพนม และเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่งกระทำเกินกว่าเหตุ
เป็นต้นเหตุทำให้ลูกชาย คือ ด.ช.ธนาวุฒิ อินทะวงษ์ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 เรียนอยู่ที่โรงเรียนศรีบัวบาน บ้านเนินสะอาด ต.นาราราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม เสียชีวิตจากอุบัติเหตุชนต้นไม้ข้างทางเนื่องจากถูกตำรวจจราจรขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามจับเพราะไม่สวมหมวกกันน็อก
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ติดตามจับกุมผู้ตายมาตั้งแต่สี่แยกบ้านน้อยใต้ ทางเข้าตัวเมืองนครพนม มุ่งหน้าไปยังถนนเลี่ยงเมือง ออกไปยัง อ.ท่าอุเทน ก่อนเลี้ยวเข้าสู่ถนนมุ่งหน้าไปยังบ้านนาสมดี จนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางโค้ง ทำให้รถจักรยานยนต์ของเด็กนักเรียนเสียหลักชนต้นไม้ข้างถนน
ขณะเกิดเหตุได้มีพลเมืองดีสามีภรรยา คือ นายสุรเดช มาบัว อายุ 37 ปี พร้อมด้วยภรรยา คือ นางปานเงิน บัวลิ อายุ 29 ปี ชาวบ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม ได้ขับรถยนต์มุ่งหน้ามาตามเส้นทางเดียวกันเห็นเหตุการณ์
นายสุรเดชและภรรยาให้การตรงกันว่าเห็นตำรวจจราจรนายหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ ติดตามไล่จับรถจักรยานยนต์ผู้ตาย และมีเสียงตะโกนให้หยุดรถ ซึ่งมาด้วยความเร็วทั้ง 2 คัน แต่ผู้ตายไม่ยอมหยุด จนในที่สุดรถผู้ตายเสียหลักชนต้นไม้ข้างถนน เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนพลเมืองดีที่ติดตามมาได้ถ่ายคลิปช่วงเกิดเหตุไว้ และเข้าไปช่วยเหลือนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม แต่เสียชีวิตภายหลัง ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าเลือดท่วมปอด
พ.ต.อ.สมนึก มิควาฬ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า หลังมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจาก พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมแล้ว เบื้องต้นได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานสอบสวนพยานเพิ่มเติม ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งยอมรับว่าตำรวจจราจรมีการติดตามจับกุมเด็กผู้ตายจริง หลังมีการตั้งจุดตรวจในตัวเมือง แต่ผู้ตายไม่สวมหมวกกันน็อก และพยายามหนีด่านตรวจ และฝ่าไฟแดง ทางตำรวจจราจรจึงติดตามจับกุม และเกิดเหตุสลดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในประเด็นตามข้อร้องเรียนว่าเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต หรือกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จะต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปผลการสอบสวนตามขั้นตอน อยู่ระหว่างการดำเนินการ
โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หากตำรวจปฏิบัติหน้าที่เข้าข่ายความผิดก็ต้องรับผิด หากเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย จะต้องให้ความเป็นธรรมผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ทุกอย่างมีขั้นตอนการดำเนินการ ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ ซึ่งหากผิดจริงไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่มีละเว้น จะต้องเอาผิดทั้งทางวินัย และทางอาญาอย่างแน่นอน
ข้อมูลข่าวจาก