เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นางสุภัชชา สุทธิพล ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะ โฆษก พม. เปิดเผยถึงกรณี นางสาวปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม อดีตนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่เปิดโปงขบวนการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งและผู้มีรายได้น้อย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าผู้ใหญ่ในพม.ท่านหนึ่งไม่ทำตามสัญญา ที่บอกว่าเรียนจบแล้วจะรับเข้าทำงาน โดยรับปากต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา
ตนไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่คนไหนของ พม.ที่ไปรับปาก และได้พูดกับน้องแบมไปว่าอย่างไร แต่ตามหลักการหากอยากเป็นข้าราชการสังกัดพม. ต้องสอบบรรจุตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งเริ่มแรกจะต้องสอบภาค ก.ให้ผ่าน จากนั้นจะต้องสอบภาค ข.ที่กระทรวงหรือกรมเปิดสอบให้ผ่าน ก่อนสอบสัมภาษณ์ ซึ่งที่ผ่านมา พม.ใช้ระบบนี้มาตลอดในการรับข้าราชการพลเรือน
“การสอบก.พ.ถือเป็นการสอบที่ต้องใช้ความสามารถของตนเอง คำสัญญาว่าจะรับน้องเข้าทำงานก็ไม่สามารถล่วงล้ำได้ เว้นแต่ในส่วนการสอบภาค ข.และสอบสัมภาษณ์ ที่อาจทำให้น้องอาจมีภาษีดีกว่าผู้สอบคนอื่นๆ เพราะเคยฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจึงมีประสบการณ์มากกว่า และตอบคำถามได้ แต่คงไม่ใช่การไปลัดขั้นตอน เพราะอาจทำให้เกิดข้อครหาจากผู้ที่ขึ้นบัญชีรอเรียกบรรจุได้” โฆษกพม. กล่าว
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมจาก