วันที่ 24 พ.ค. ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายเจริญ หล่อเจริญรัตน์ อายุ 52 ปี พ่อค้าจำหน่ายผักสด ในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า ผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาก๊าซหุงต้มปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาพืชผัก ผลไม้ หลายชนิดที่รับมาจากแหล่งผลิต และแหล่งค้าส่งจากสถานที่ต่างๆ ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น
เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขึ้นราคา ทำให้ผู้ค้าต้องเพิ่มต้นทุนในการขนส่ง ประกอบกับอยู่ในช่วงที่เข้าสู่มรสุม ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรออกน้อยลง พืชผักเริ่มขาดตลาด จึงต้องมีการปรับขึ้นราคาหลายเท่าตัว ขณะที่ของสด และของทะเลยังมีราคาคงเดิม แต่มีแนวโน้มที่จะปรับราคาเพิ่มขึ้นหลังจากหมดสต็อกล็อตนี้อาจจะมีการปรับเพิ่มราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ตามอัตราราคาค่าน้ำมัน
ดังนั้นวันนี้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ได้มีการปรับราคาพืชผักหลายรายการสูงขึ้น 10-20 เปอร์เซ็นต์ อาทิเช่น ผักชี ต้นทุนที่รับมากิโลกรัมละ 230 บาท ก็นำไปขายปลีกในราคา 250 บาทต่อกิโลกรัม ต้นหอมที่รับมากิโลกรัมละ 85 บาท นำไปขายปลีก 100 บาท แตงกวา แต่เดิมราคากิโลกรัมละ 20-25 บาท ตอนนี้ขยับราคาขึ้น จึงต้องขายปลีกในรา
นายเจริญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่มากๆ และราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมาซื้อน้อยลง คนขายเองก็สู้ราคาต้นทุนแทบจะไม่ไหว บางรายต้องไปกู้เงินนอกระบบมาหมุนเวียนลงทุนอีกด้วย
ขณะที่นางมารินทร์ โสภณอาดิสัย อายุ 59 ปี ผู้บริโภคที่มาจับจ่ายซื้อผักในตลาดสด กล่าวว่า ช่วงนี้เงินหายาก ครอบครัวก็มีหลายคน ผักก็แพงขึ้น ตนมีอาชีพกรีดยางพารา ช่วงนี้ฝนก็ตกบ่อย ทำให้ไม่มีเงิน อยากจะขอให้รัฐบาลช่วยเหลือบรรดาเกษตรกรหน่อย ให้เหมาะกับราคาสินค้าที่มันปรับขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ที่มา: