หมดยุคล้าหลัง!! ก้าวล้ำ สู่ “นวัตกรรมเกษตร” ทันสมัย เร่งพัฒนา ผลักดันเกษตรชาวบ้าน เป็น “ธุรกิจเกษตร” สร้างผลผลิต เพิ่มรายได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
“เกษตรกร” อาชีพหลักที่คู่ประเทศไทยมาช้านาน จากคนไทยกว่า 66ล้านคน เป็นอาชีพเกษตรกรไปแล้วกว่า 9ล้านราย (ข้อมูล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ส.ค. 2565)
เมื่อโลกหมุนไว มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นมาก จึงต้องพัฒนาภาคเกษตรกรรม มุ่งสู่ความสมัยใหม่ นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทั้งในด้านการผลิต ดูแลรักษา และจัดจำหน่าย
จากเดิมที่ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ ในการเพาะปลูก หรือเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันอาจจะใช้เพียงแค่ตึกเดียวก็เพียงพอ เช่น การพัฒนา “เลี้ยงหมูบนตึก” 26ชั้นของประเทศจีน ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง หรือของไทยเราก็มี “การปลูกพืชแนวตั้ง” ที่ใช้พื้นที่น้อย แต่ได้ผลิตมาก สามารถปลูกบนตึก หรือคอนโดได้อย่างสบายๆ
จากกิจการแปลงผัก เปลี่ยนสู่ธุรกิจกว่าพันล้าน “แ” จากการร่วมธุรกิจปลูกผักส่งขายส่ง เจ้าของต้องการเพิ่มมูลค่าพืชผัก ด้วยการเปิดธุรกิจร้านอาหาร จนเติบโตกว่า 17สาขาทั่วประเทศ และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย #ใครว่าปลูกผักไม่รวย #มาดูโอ้กะจู๋เป็นต้นแบบ
จากโรงงานผักดอกไหเล็กๆ ที่ร่วมทำกับกลุ่มเพื่อน สู่แบรนด์รายได้พันล้านระดับโลก “ผักกาดดอง ตรา นกพิราบ” เริ่มแรกเป็นเพียงโรงงานผลิตผักดองเล็กๆ ที่ดองในไห แล้วนำไปขาย ต่อมาเมื่อทำใส่กระป๋อง จึงเป็นความแปลกใหม่ในสมัย 70กว่าปีที่แล้ว และยังคงคุณภาพสินค้า ยาวนานถึงปัจจุบัน ทำให้ ผักดองนกพิราบ ตีตลาดไปไกลทั้งในยุโรป และเอเชีย ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบโฆษณา เพราะเป็นสินค้าคุณภาพเยี่ยม จาก “ผักกาด” พืชผักสวนครัวของไทย ที่ยังไงก็ ขายได้
จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้น เห็นได้ว่าภาคการเกษตรพัฒนาไปไกลมากแล้ว คนทำเกษตรไม่จำเป็นต้องจนอีกต่อไป เพียงแค่ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ต่อยอดผลิตภัณฑ์ ให้มันไม่ใช่เพียงพืชผัก หรือเนื้อสัตว์ธรรมดา แปรรูปให้แปลกใหม่ แต่ยังคงคุณภาพของสินค้าไว้ได้ เพียงแค่นี้ #ทำเกษตรก็รวยได้
#ก้าวล้ำนวัตกรรมเกษตร #ส่งเสริม #ธุรกิจเกษตร
การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์