หลัง “ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย” ได้เซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กม. ไปเมื่อปี 2558 ด้วยวงเงิน 23,430 ล้านบาท
มีผู้รับเหมาชั้นนำกลุ่มกิจการร่วมค้าซีเคซีเอช ประกอบด้วย บมจ.ช.การช่าง และ บจ.ช.ทวีเป็นผู้ก่อสร้าง โดยเริ่มเข้าพื้นที่ เมื่อเดือน ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการเมื่อเดือน ธ.ค. 2560 ในภาพรวมอยู่ที่ 48% ยังล่าช้าจากแผนงานอยู่ 2%
แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ได้ปรับแผนการเปิดบริการใหม่จากก่อนหน้านี้มีนโยบายจะเปิดบริการช่วงบ้านเกาะ-เมืองคง ระยะทาง 50 กม.ก่อนในช่วงปลายปี 2560 นั้น คงไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากต้องทดสอบระบบอาณัติสัญญาณเพื่อความปลอดภัย โดยจะเปิดบริการพร้อมกันตลอดสายภายในเดือน ก.พ. 2562
โครงการรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น เป็นรางกว้าง 1 เมตร โดยก่อสร้างทางเพิ่ม 1 ทาง ด้านขวาขนานไปกับทางรถไฟเดิม มีสถานีในพื้นที่ก่อสร้าง 18 สถานี มี 16 สถานีเดิมที่ได้รับผลกระทบต้องรื้อแล้วสร้างใหม่ ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้รับการประสานงานจากหน่วยงานราชการ องค์กรท้องถิ่น และองค์กรสาธารณกุศล ขออนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟเก่าไว้ จำนวน 14 แห่ง
ได้แก่ สถานีบ้านเกาะ สถานีหนองแมว สถานีโนนสูง สถานีบ้านดอนใหญ่ สถานีเมืองคง สถานีโนนทองหลาง สถานีหนองบัวลาย สถานีหนองมะเขือ สถานีเมืองพล สถานีบ้านหัน สถานีบ้านไผ่ สถานีบ้านแฮด สถานีท่าพระ และสถานีขอนแก่น
โครงสร้างเป็นทางวิ่งระดับพื้นทั้งหมด ยกเว้นช่วงบริเวณสถานีขอนแก่นจะเป็นทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 5.4 กม. โดยจะรื้อสถานีเดิมและสร้างสถานีใหม่ขึ้นมารองรับ ถือว่าเป็นสถานีขนาดใหญ่พิเศษแห่งแรกในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน มีสะพานรถไฟจำนวน 84 สะพาน งานก่อสร้างสถานีรถไฟระดับพื้น 18 สถานี และป้ายหยุดรถไฟ 7 แห่ง และงานก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ สถานีบ้านกระโดน สถานีชุมทางบัวใหญ่ และสถานีท่าพระ
ส่วนงานก่อสร้างโยธาและอื่น ๆ ของโครงการ เช่น ระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนเดินข้าม รั้วตลอดแนวของโครงการถนนยกระดับ (overpass) ถนนยกระดับรูปตัวยู หรือยกระดับทางรถไฟ เพื่อแก้ปัญหาจุดตัดระหว่างถนนกับทาง
เมื่อเปิดบริการในปีแรกคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ 27,200-38,800 คนต่อวัน และปี 2577 เพิ่มขึ้นเป็น 37,000-55,000 คนต่อวัน และปริมาณขนส่งสินค้าที่ผ่านเส้นทาง 10,900-11,300 ตันต่อวัน และปี 2577 เพิ่มขึ้นเป็น 36,400 ตันต่อวัน
ภาพและข้อมูลจาก: ประชาชาติ