กรณีมีคนวางยาพิษในกระติกน้ำดื่ม ส่งผลให้ ด.ญ.กระเพรา (นามสมมุติ) อายุ 4 ปี เสียชีวิต ส่วน น.ส.นุจรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นแม่ ด.ญ.ยิ่ง อายุ 7 ปี และ ด.ญ.เรไร อายุ 3 ปี ซึ่งเป็นหลานของ น.ส.นุจรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในบ้านหลังหนึ่งพื้นที่ ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่นำตัว น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี พี่สาวต่างพ่อของน้องกระเพรา มาสอบสวน โดย น.ส.เอ มีอาการพิรุธ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงเปิดปากยอมรับสารภาพว่าเป็นคนผสมยาฆ่าแมลง และนำไปเทลงในกระติกน้ำ หวังที่จะทำร้ายแม่ เนื่องจากน้อยใจที่แม่ไม่เคยมาดูแล ทิ้งตนให้อยู่กับตายายตั้งแต่เด็ก และไปมีครอบครัวใหม่
อีกทั้งแม่มาทราบเรื่องว่า ตนคบหาดูใจอยู่กับแฟนหนุ่ม แต่ก็ถูกกีดกันให้เลิกกัน ทำให้เกิดความคับแค้นใจจนก่อเหตุดังกล่าว แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าตัวก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระหว่างการสอบสวนก็ร้องไห้ตลอดเวลา
ความคืบหน้าวันที่ 27 มิ.ย. ที่สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พร้อม พ.ต.อ.พานทอง สุวรรณจูฑะ รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม ลงพื้นที่ สภ.บรบือ เพื่อติดตามคดีวางยาพิษในน้ำดื่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับสารพิษอีก 3 คน โดยผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนวัย 15 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวต่างบิดาของผู้เสียชีวิต
พล.ต.ต.อภิศักดิ์ ได้เข้าประชุมสอบถามเรื่องสำนวนคดีกับร้อยเวร ในห้องประชุมโดยมีเยาวชนอายุ 15 ปี ผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้องด้วย การประชุมใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุขึ้นรถตู้ไปส่งสำนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคาม เพื่อร่วมสอบสวนกับสหวิชาชีพ
ส่วน ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุหลังทำความเคารพศพ มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.อภิศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวัน 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ใช้สารพิษผสมในน้ำดื่ม ที่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 10 ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เพื่อหมายเอาชีวิตคนในบ้าน ทำให้มีผู้ได้รับสารพิษ 3 คน ประกอบด้วย น.ส.นุชจรี ด.ญ.ยิ่ง อายุ 7 ปี และ ด.ญ.เรไร อายุ 3 ปี หลานของ น.ส.นุจรี และผู้เสียชีวิคือน้องกระเพรา
ซึ่งก่อนเกิดเหตุทั้งหมดนั่งล้อมลงรับประทานส้มตำป่า อยู่ใต้ถุนบ้าน จากนั้นได้ดื่มน้ำในกระติกที่ไม่ทราบว่ามีการปนเปื้อนสารพิษเข้าไป ทำให้มีอาการชักเกร็ง ตาค้าง น้ำลายฟูมปาก ต่อมาญาติและเพื่อนบ้านได้นำตัวส่งโรงพยาบาล จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บรบือ นำตัวเยาวชนหญิงวัย 15 ปี มาสอบสวน กระทั่งรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นบุตรสาวของน.ส.นุชจรี และเป็นพี่สาวต่างบิดาของน้องกระเพรา โดยจากการซักถามต่อหน้าผู้ปกครองซึ่งเป็นตาและยาย ได้ความว่า
ในวันเกิดเหตุ นำขวดยาฆ่าแมลงที่วางไว้ที่พื้นข้างยุ้งข้าวข้างบ้าน ที่มียาฆ่าแมลงอยู่ในขวดนำมาผสมน้ำเปล่าแล้วเทลงไปในกระติกน้ำสีแดง ที่วางไว้ใต้ถุนบ้าน เพื่อหมายเอาชีวิต น.ส.นุชจรี ผู้เป็นมารดา เนื่องจากไม่พอใจที่แม่ไม่เคยดูแล ทิ้งตนเองไปตั้งแต่อายุได้เพียง 15 วัน ทำให้มีความแค้นฝังใจมาตลอด โดยวางแผนไว้นานนับปี เมื่อแม่เดินทางมาเยี่ยมตาที่ป่วยต้องนอนโรงพยาบาล จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนและพยายามฆ่าบุพการีโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนและปลอมปนสิ่งเจือปนหรือสารพิษลงในอาหารและเครื่องดื่ม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเยาวชนหญิงวัย 15 ปี ไปสอบสวน
ซึ่งผู้ต้องหายังเป็นเยาวชนต้องสอบสวนร่วมกับอัยการ สหวิชาชีพ นักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่สอบสวน สภ.บรบือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายกรุง (ขอสงวนนามสกุล) พ่อของน้องกระเพรา พ่อเลี้ยงของผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเองทราบเรื่องว่าลูกติดภรรยา วางยาเพื่อหวังที่จะเอาชีวิตแม่แท้ๆของตัวเอง เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน (26 มิ.ย.61) พอได้ยินครั้งแรกถึงกับช็อก แขนขาอ่อนไปหมด
ไม่คิดว่าจะเป็นคนใกล้ตัว ไม่คิดว่าลูกจะทำ ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร ทำไมไม่รักแม่ ไม่รักน้อง ขึ้นชื่อว่าเป็นลูก คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องรักหมดทุกคน จากนี้ไปตนเองก็คงได้แต่ทำใจ ถึงแม้ว่าจะอโหสิกรรมให้ แต่ก็ทำใจลำบาก
รายละเอียดข้อมูลข่าวจาก