อดีตเชฟสาวอาหารไทย-ยุโรปตัดสินใจทิ้งงานโรงแรมชื่อดังกลับมาอยู่กับครอบครัวที่บุรีรัมย์ ใช้ประสบการณ์ฝีมือจากที่เคยเป็นเชฟทำขนมจีบหมูสูตรโบราณ ซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มขายในตลาดหน้าโรงพยาบาล ลูกค้าเข้าคิวซื้อแน่นหมดเกลี้ยงทุกวัน สร้างรายได้วันละกว่า 4,000 บาท ทั้งมีออเดอร์สั่งไปขายต่อเพียบจนทำไม่ทัน
วันนี้ (8 ม.ค.) น.ส.เกศิณี เกตุศรี อายุ 30 ปี อดีตเชฟสาวอาหารไทย-ยุโรปโรงแรมชื่อดังที่ จ.ชลบุรี ตัดสินใจกลับมาอยู่กับครอบครัวที่ จ.บุรีรัมย์ ใช้ประสบการณ์และฝีมือจากที่เคยเป็นเชฟ ทดลองทำขนมจีบหมูสูตรโบราณ ตั้งโต๊ะขายในตลาดสดหน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ แต่ด้วยสูตรขนมจีบโบราณที่คิดค้นเองไม่เหมือนใคร ซึ่งทำจากหมูล้วนๆ ไม่ผสมแป้ง เพียงใส่ไข่ไก่และต้นหอมให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น แล้วห่อใส่แผ่นเกี๊ยวเท่านั้น ทำให้เป็นที่ถูกปากถูกใจของลูกค้า
หลังจากเปิดขายได้ประมาณ 2 เดือน มีลูกค้าทั้งข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าในตลาด และประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของต่างมาเข้าคิวรอซื้อกันอย่างคึกคัก และนอกจากมีขนมจีบหมูสูตรโบราณแล้ว ยังมีซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็ม หมูสับไส้กรอก และซาลาเปาหมูแดงให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออีกด้วย
โดยแต่ละวันจะทำซาลาเปามาขายวันละ 300 ลูก ขนมจีบวันละ 700-800 ลูก ขนมจีบขายในราคา 7 ลูก 20 บาท ส่วนซาลาเปาทุกไส้ขายลูกละ 10 บาท เปิดขายตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. ที่ตลาดสดหน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ทุกวัน โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์จะขายดีเป็นพิเศษ บางสัปดาห์เพียงชั่วโมงเดียวหมดเกลี้ยง
น.ส.เกศิณี เกตุศรี บอกว่า ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นเชฟตามโรงแรมที่ จ.ชลบุรีมาถึง 7 ปี เงินเดือนประมาณ 30,000 บาท แต่พอแต่งงานก็อยากกลับมาอยู่กับครอบครัว จึงตัดสินใจลาออกแล้วมาหาสมัครงานในตำแหน่งเชฟตามโรงแรมที่บุรีรัมย์ แต่ยังไม่มีโรงแรมไหนเรียกตัว ช่วงที่รอไม่อยากอยู่เฉย จึงได้นำความรู้จากที่เคยเป็นเชฟลองทำขนมจีบสูตรโบราณที่คิดค้นเอง โดยตอนแรกทำกินเอง ทั้งให้ญาติและเพื่อนบ้านชิม ก็ได้รับคำชื่นชมว่ารสชาติอร่อยถูกปาก จึงลองทำออกมาวางขายที่ตลาด
ช่วงแรกยังขายไม่ค่อยดีเพราะยังไม่มีคนรู้จัก แต่พอลูกค้าได้ซื้อไปรับประทานแล้วติดใจกลับมาอุดหนุนเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน ทั้งยังมีออเดอร์จากแม่ค้าพ่อค้ามาสั่งจะรับไปขายต่อ แต่ยังไม่ตอบตกลงเพราะกลัวจะทำไม่ทันเพราะไม่ได้ใช้เครื่องบด ทุกขั้นตอนทำเองกับสามีสองคน
ภาพและข้อมูลข่าวจาก: MGR Online