รองผวจ.ขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ 4 จังหวัดด่วนที่สุด ขอระบายน้ำออกจากเขื่อนอุบลรัตน์ ระหว่าง 35-45 ล้านลบ.ม./วัน เริ่มปรับเพิ่มเมื่อระดับน้ำเท่ากับ 182.50 ม.รทก. และพยายามควบคุมระดับน้ำในเขื่อนไม่ให้สูงกว่า 183.00 ม.รทก.
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 ต.ค. ที่ห้องประชุม ปภ.ขอนแก่น ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น ในฐานะรองประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และยโสธรด่วนที่สุด เพื่อขออนุมัติเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ภายหลังจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยวันละ 0.24 เมตร และยังคงมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังคงมีปริมาณฝนตกหนาแน่นในพื้นที่รับน้ำและปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนที่สูงมากกว่า 100 ล้าน ลบ.ม./วัน อย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันสภาพน้ำเขื่อนอุบลรัตน์สูงกว่าระดับเก็บกักน้ำที่ระดับ 182.00 ม.รทก. เท่ากับ 0.29 เมตร ปริมาณน้ำเก็บกักในเขื่อน 2,548 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 105 % ของความจุเขื่อน มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน 329 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายออก 33.90 ล้าน ลบ.ม./วัน ถือว่าปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก คิดเป็น 166 % ของปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเฉลี่ยทั้งปี (2,479 ล้าน ลบ.ม./ปี) ทำให้น้ำเต็มเขื่อนและคาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอีกมาก เนื่องจากมวลน้ำที่หลากมาจากลำน้ำพรม-เชิญ และได้หลากท่วมพื้นที่ อ.หนองเรือ, อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ก็จะไหลหลากอย่างต่อเนื่องเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์ รวมทั้งลำน้ำพองและลำพะเนียงด้วย ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 0.24 เมตรและคาดว่าจะสูงกว่า 182.50 ม.รทก. ภายในวันที่ 12 ต.ค.นี้
นายสันติ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำดังกล่าวข้างต้น ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนที่สูงมากกว่า100 ล้าน ลบ.ม./ วัน อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศปัจจุบันมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หากยังคงระบายน้ำตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่กำหนดให้เขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำได้สูงสุดเพียง 34 ล้าน ลบ.ม./วัน เท่านั้น ระดับน้ำในเขื่อนคาดว่าจะสูงขึ้นจนถึงระดับ 183.00 ม.รทก. ภายในเวลาเพียง 4 วัน ประมาณวันที่ 15 ต.ค. และมีโอกาสสูงมากที่ระดับน้ำจะสูงขึ้นไปจนถึงระดับ 183.50 ม.รทก. ซึ่งที่ระดับดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรอย่างสูงสุด ดังนั้นคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจ.ขอนแก่น จึงได้เรียกประชุมร่วมกับคณะกรรมการ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มจ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำหลากในพื้นที่ รวมทั้งพิจารณาการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อดำเนินการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำพองและลุ่มน้ำชี
“คณะกรรมการบริหารฯ ได้สรุปว่า ให้เขื่อนอุบลรัตน์ปรับเพิ่มการระบายน้ำ ระหว่าง 35-45 ล้านลบ.ม./วัน โดยจะเริ่มปรับเพิ่มเมื่อระดับน้ำเท่ากับ 182.50 ม.รทก.และพยายามควบคุมระดับน้ำในเขื่อน ไม่ให้สูงกว่า 183.00 ม.รทก. พร้อมกับให้เขื่อนอุบลรัตน์แจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 2 วันก่อนที่จะระบายน้ำเพิ่มระหว่าง 35-45 ล้าน ลบ.ม./วัน และให้อำเภอในสังกัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบ และเฝ้าระมัดระวังและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง” รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าว
ข้อมูล: เดลินิวส์