เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.61) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ไข้เลือดออกตอนนี้ ถือว่าดีขึ้น คือมียอดผู้ป่วยไข้เลือดออกตั้งแต่เดือนสิงหาคม ลดลง น้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ เพราะประชาชนโดยเฉพาะระดับชุมชนหมู่บ้านให้ความร่วมมือในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้แม้สถานการณ์ไข้เลือดออกดีขึ้น แต่ปัญหาคือพบว่าอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ เหตุเพราะคิดว่าไข้เลือดออกเป็นโรคที่พบในเด็ก จึงไม่ได้ระวังตัวเอง คิดว่าเป็นเพียงไข้หวัดจึงซื้อยามากินเอง พออาการรุนแรง ช็อกก็รักษาไม่ทัน จึงต้องขอเตือนว่าในช่วงนี้แม้ว่าจะพบไข้หวัดมากกว่าแต่ก็อย่าละเลยเรื่องไข้เลือดออก ซึ่งเป็นได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ห้ามซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาแอสไพริน เอ็นเสด ไอบูโพรเฟน เป็นต้น
ขณะที่ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยไข้เลือดออกอยู่ที่ประมาณ 58,000 ราย คิดเป็นอัตราป่วยอยู่ที่ 8 ต่อแสนประชากร ส่วนยอดเสียชีวิตพบกว่า 60 ราย คิดเป็นอัตราเสียชีวิตที่ 0.14 ต่อแสนประชากร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ควรเป็นคือ 0.11-0.12 ต่อแสนประชากร และที่น่าสนใจคือเกินครึ่งหนึ่งของยอดผู้เสียชีวิตเป็นวัยผู้ใหญ่ จากเดิมที่จำนวนคนเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออกประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นกลุ่มเด็ก นับเป็นลักษณะใหม่ของการระบาดของไข้เลือดออก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลข่าวจาก