‘เลขาสมช.’เตรียมชงศบค.ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 ด. ชี้เพื่อทำงานสู้โควิด-19 มีประสิทธิภาพ ยันไร้ต้าน-ชูปชช.กว่า 80% หนุนต่อกม. แนะรอฟังมาตรการผ่อนคลายจากสภาพัฒน์
เมื่อวันที่ 27 เมษายน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะเรียกประชุม ศบค.เพื่อจะสรุปว่ามีความจำเป็นต้องประกาศต่อ พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปหรือไม่ในวันที่ 27 เมษายนนี้ว่า ที่ประชุมจะน่ามีการเสนอต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1เดือนเพื่อขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยปัจจัยที่ต้องต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะสถานการณ์ปัจจุบันที่ ศบค.สามารถบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้อย่างเบ็ดเสร็จและรวดเร็วเพราะมีกฎหมายฉบับนี้ หากไม่มีหรือไม่ต่ออายุก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพ ไม่ฉับไวเท่าที่ควร มาตรการเคอร์ฟิวก็ทำไม่ได้และ ศบค.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผอ.สามารถสั่งการได้โดยตรง ถ้าโควิดหยุดเมื่อไหร่หรือคนป่วยเหลือน้อยลงเมื่อนั้นถึงจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ แต่การคลี่คลายนั้นต้องดูสถานการณ์โลกด้วยไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย
“พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเท่าไร จะเป็นตัวมาตรการตามมาต่างหากที่มีผลต่อประชาชน ถ้าจะมีการผ่อนปรนต้องผ่อนปรนที่มาตรการที่จะออกตามมาในคราวต่อไป โดยวันที่27 เมษายนนี้คงจะมีการหยิบยกมาพูดคุยกันในที่ประชุม ศบค. ซึ่งต้องรอฟังจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ฯ)ที่ได้ไปหารือกับภาคธุรกิจและจะนำกลับมาเสนอในที่ประชุม และจะไปหารือต่อระหว่างสมช.กับสภาพัฒน์ฯว่าที่เสนอมีความเป็นไปได้ขนาดไหน มีความมาตรการเข้มข้นพอหรือไม่ ถ้ายังก็ไม่อนุญาต ถ้าพอใจทุกฝ่ายถึงอนุญาตให้ผ่อนคลาย ยืนยันว่าไม่มีกลุ่นคนที่ต่อต้านการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หากดูจากการสำรวจผลโพลมีมาก 80% ที่ต้องการให้ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ”เลขา สมช.กล่าว
ข้อมูลข่าวจาก มติชนออนไลน์