วันที่ 11 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวในส่วนของศูนย์ควบคุมโรคของรัฐที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ว่า ได้มีการหารือกันว่ามีความไม่พร้อมในเรื่องสถานที่ บางพื้นที่ประชาชนก็ต่อต้าน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลว่าการเอาคนไปรวมกัน อาจจะเกิดการติดโรคกันเหมือนเรือสำราญไดมอนด์ ปริ๊นเซส จึงคิดว่ามาตรการเหมาะสมดีที่สุดและน่าจะมีประสิทธิภาพคือนำไปอยู่ในภูมิลำเนาของเขาเอง
ส่วนมาตรการดูแล กระทรวงสาธารณสุขจะใช้กฎหมายแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ มีอำนาจลงโทษได้หากไม่ทำตาม เช่น ออกนอกพื้นที่ โดยร่วมกับฝ่ายปกครองกับทหาร ตำรวจ ทำให้การเฝ้าดูอาการที่บ้านมีประสิทธิภาพ และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะไปตรวจสุขภาพให้
สำหรับคนที่เข้ามาก่อนหน้าและอยู่ที่ศูนย์ควบคุมโรคที่สัตหีบและศูนย์อื่นๆ ทั่วประเทศ ก็ไม่ต้องอยู่ถึง 14 วันแล้ว แต่จะให้กลับไปอยู่ที่ชุมชนตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีและมีประสิทธิภาพกว่าให้เขาไปอยู่รวมกัน
อีกด้าน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศูนย์ข้อมูล โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล ตอบคำถามในการแถลงข่าวประจำวันว่า รัฐบาลมีนโยบายปิดศูนย์ควบคุมโรคผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังในจังหวัดต่างๆ ทั้งที่สัตหีบและจังหวัดต่างๆ และให้กลับไปเก็บตัวที่ภูมิลำเนาแทน โดยมี ส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และภาคส่วนในท้องถิ่น ดูแลอย่างใกล้ชิด และจะให้ความรู้กับประชาชนในละแวกนั้น ผู้ที่มาเก็บตัวไม่ได้ป่วย แต่มาเฝ้าระวังเท่านั้น
เหตุผลที่ปิดมาจากมาตรฐานทุกประเทศ ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็ให้เฝ้าระวังที่บ้าน แต่ต้องให้ความรู้กับญาติพี่น้องว่าจะต้องอยู่กันแบบไหน และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สิ่งที่ดำเนินการเป็นการทำตามมาตรฐานวิชาการขององค์การอนามัยโลก เราจะแยกบุคคลว่าเสี่ยงสูงหรือน้อย กลุ่มคนที่เสี่ยงสูงคือ ไม่มีถิ่นที่อยู่หรือมีพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือ ยังต้องมีศูนย์ใหญ่ๆ ไว้อยู่ ส่วนที่ไปในระดับจังหวัดจะดูแลโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการฯ เป็นประธาน
“การที่แยกตัวอยู่ที่บ้านเป็นมาตรฐานที่ทำได้ดี ในหลายประเทศและเป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก สิ่งเหล่านี้คนส่วนใหญ่ทำได้ดี มีเพียงคนส่วนน้อยที่เรายังต้องเตรียมสถานที่เอาไว้เพื่อรองรับ เช่น คนที่ไม่มีถิ่นที่อยู่”
ข่าวจาก: Workpoint news
ชมคลิปการแถลงมาตรการแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 และสั่งปิดศูนย์ >> https://media.thaigov.go.th/
และต่อมาเวลาประมาฯ 20.00 น. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัมน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คระบุว่า ชี้แจงนะคะ ศูนย์เฝ้าระวังที่รัฐบาลตั้งขึ้น หรือ State Quarantine ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ที่ขณะนี้ได้มีการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ยังคงเปิดใช้ และยังมีกลุ่มเฝ้าระวังอยู่ในศูนย์ฯ และต่อไปจะใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาในระบบการคัดกรอง และไม่สามารถไปกักกันเฝ้าระวังที่ภูมิลำเนาได้ หรือกรณีอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น คนไทยจะกลับมาจากประเทศหนึ่ง แต่ไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ หรือไม่ผ่านการคัดกรองจากต้นทางมาอย่างครบขั้นตอน รวมถึงกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งศูนย์ฯนี้จะได้มีไว้เพื่อพร้อมรองรับกลุ่มดังกล่าว
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติมคลิก