วันที่ 3 มิ.ย. นพ.จิรัชย์ จิรธรรมโอภาส ชำนาญการแผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับประสานให้เข้ามาช่วยคนไข้รายหนึ่งอายุ 78 ปี ไม่มีประวัติเรื่องของการขับถ่ายที่ผิดปกติ
ตอนนั้นคนไข้มีอาการท้องอืด ปวดท้อง ผลการเอกซเรย์พบว่า มีลมรั่วอยู่ในช่องท้อง และประเมินเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นอาการของลำไส้ หรือระบบทางเดินอาหารทะลุ ประกอบกับช่วงดังกล่าวเป็นหน้าของกระท้อนที่มีการวางขาย ทางทีมแพทย์คาดว่าคนไข้น่าจะกลืนเม็ดกระท้อนเข้าไป เนื่องจากอาหาร หรือผลไม้อย่างอื่นไม่น่าจะเป็นไปได้
ผลจากการเอกซเรย์ และซีทีสแกน พบสิ่งแปลกปลอมหัวเรียวท้ายเรียวคล้ายกับเม็ดกระท้อนอยู่ในลำไส้อยู่ 2 จุดใหญ่ จึงรีบพาคนไข้เข้าห้องผ่าตัดในทันที เนื่องจากหากช้ากว่านี้คนไข้อาจจะถึงขั้นช็อกหรือเสียชีวิตได้
หลังการผ่าตัดพบเม็ดกระท้อนอยู่ในลำไส้ของผู้ป่วยมากกว่า 10 เม็ด ซึ่งแพทย์ได้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่ในส่วนที่เป็นปัญหาออก และเย็บปิดลำไส้ส่วนปลาย และยกทวารเทียมขึ้นมาให้คนไข้ขับถ่ายทางหน้าท้องไปก่อนระยะนี้ พร้อมทำความสะอาดอุจจาระที่กระจายอยู่ในช่องท้องจากการที่ลำไส้ทะลุ
“คนไข้รายนี้เป็นเคสแรกที่กลืนเม็ดกระท้อนเข้าไป และมีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งคนไข้ที่มาด้วยอาการนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ นอกจากลำไส้ทะลุ และอาจจะมีอุจจาระกระจายอยู่ในช่องท้องแล้ว”
หลังผ่าเสร็จคนไข้ยังต้องขับถ่ายทางทวารเทียมที่หน้าท้องอีกอย่างน้อย 6 เดือน และหลังจากนั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกรอบ เพื่อปิดทวารเทียม เพื่อขับถ่ายแบบปกติ
แพทย์ยังได้ฝากเตือนผู้ชื่นชอบการกินกระท้อน โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้สูงอายุที่ไม่มีฟัน ให้งดการกลืนเม็ดกระท้อนลงไปในท้องเด็ดขาด เนื่องจากกระท้อนอาจจะเป็นผลไม้อย่างหนึ่งที่กินแล้วเกิดอาการเพลิน และอยากที่จะกลืนลงไปในท้องทั้งเม็ด แต่ผลกระทบที่ตามมานั้น อาจจะถึงขั้นรุนแรงถึงชีวิต
ข้อมูลข่าวจาก ข่าวสด