“บิ๊กตู่”ห่วงผลกระทบและความเดือดร้อนปชช.ในภาพรวม ย้ำผ่อนคลายทีละนิดตลาดนัด-ร้านค้าบางประเภท คาดยังคงมาตรการเคอร์ฟิว-ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปก่อน ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ในการหารือวันเดียวกันนี้ (20 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. แสดงความเป็นห่วงถึงผลกระทบและความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนโดยภาพรวม แต่เนื่องจากบางพื้นที่ยังมีจำนวนตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนที่มากอยู่ จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขไปประเมินและหารือกับผู้ประกอบการและร้านค้าที่ได้รับผลกระทบในแต่ละพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ เพื่อพิจารณาผ่อนปรนมาตรการให้กับบางอาชีพ
โดยย้ำว่าให้เป็นการผ่อนคลายทีละนิด อาทิ ตลาดนัด หรือร้านค้าบางประเภทที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีความจำเป็น แต่ก็จะต้องมีมาตรการเข้มในการรักษาความสะอาด การสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และการใช้เจลล้างมือก่อนเข้าพื้นที่ แต่อย่างกรณีของร้านเหล้า สถานบันเทิงต่างๆนั้น ก็ยังคงใช้มาตรการเข้มอยู่ต่อไป และยังคงมาตรการเคอร์ฟิวต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีการขยายเวลา ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.)ต่อไปก่อน ซึ่งไม่น่าจะต่ำกว่า 1 เดือน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจและทหาร พิจารณาผ่อนผันยานพาหนะบางประเภทที่มีความจำเป็นในการขนส่งเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำในเรื่องการทำงานที่บ้าน หรือ work from home(wfh) ว่ายังควรต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องซึ่งจะต้องขอร้องหน่วยงานราชการและภาคเอกชนต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) ยังไม่มีการบรรจุวาระเรื่องการขอขยายเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่อย่างไรก็ตามในที่ประชุม ครม.นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค.สามารถหยิบยกมาหารือเพื่อขอความคิดเห็นจากที่ประชุมได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่มีหน้าที่ที่จะเสนอในเรื่องดังกล่าวเพื่อให้ ครม.พิจารณานั้น เป็นหน้าที่ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สมช.ระบุว่า สมช.จะประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนที่จะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในช่วงกลางสัปดาห์นี้
ข้อมูล เดลินิวส์