สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ถือว่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ หลายวันที่ผ่านมาตัวเลขผู้ป่วยได้พุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ จากที่เราสามารถยั้งไว้ที่หลักสิบ กลับมากลายเป็นหลักร้อย
ล่าสุดสมาชิกเฟซบุ๊ก Withan Thanawuth หรือ นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ แพทย์ประจำศิริราช ได้ออกมาเปิดเผยกราฟของผู้ป่วย ที่มีลักษณะคล้ายของประเทศอิตาลี อิหร่าน ซึ่งพบกับจำนวนผู้ป่วยมหาศาลในเวลาอันรวดเร็ว นำไปสู่ระบบการแพทย์ที่พังทลายไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อีกต่อไป
โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า ความรู้สึกของผมตอนนี้ คือผมไม่ค่อยชอบตัวผมเองตอนนี้สักเท่าไหร่เลย เพราะเหมือนทำตัวเป็นผู้ช่วยโฆษกรัฐบาล ยังไงไม่รู้ แต่มันเป็นเรื่องจำเป็นทีแรกตั้งใจว่าวันนี้จะปิดปากให้เงียบหน่อยแต่ก็มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น มีข้อมูลสำคัญเกิดขึ้น ที่ทำให้ผมต้องมาเขียนเรื่องโควิดอีกจนได้ คือ หลังจากที่ได้โพสต์เรื่องกราฟสีเขียวสีชมพูไปเมื่อวานนี้
ผมก็ได้ภาพกราฟนี้ในไลน์กลุ่มเพื่อนศิริราช(ข้อมูลจากเพื่อนผม ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผอ.สำนักงานวิจัยแห่งชาติ- ขออนุญาตแล้ว ให้แชร์ได้ครับ)
แล้วหลังจากนั้น ตอนบ่ายก็มีการประกาศปิดห้างในกทม.และปริมณฑล กราฟภาพนี้คือเบื้องหลังเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ที่ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจเพิ่มมาตรการเข้มงวดขึ้น ด้วยการประกาศปิดห้าง
และสถานที่ชุมชนที่ไม่จำเป็นหลายๆ แห่งในกทม.และปริมณฑล ถ้าเรามาดูข้อมูลจากภาพกราฟนี้
เราจะเห็นเส้นกราฟที่ขึ้นชันๆ ชัดๆ ก็คือ สีส้มของอิหร่านและสีน้ำเงินของอิตาลี และเส้นกราฟที่นอนแบน คือ สีฟ้าอ่อนของญี่ปุ่น เขียวของสิงคโปร์และม่วงของฮ่องกง สีแดงตรงกลางคือประเทศไทย
รวมข้อมูลคนไทยที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเมื่อวาน 21มีนาคม 63 คือ 411 คนตรงนี้จะเห็นชัดเจนเลยนะครับว่า ประเทศไทยกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะเป็นตัวกำหนดอนาคตที่กำลังจะเป็นไปอย่างมากที่สุด อิหร่านกับอิตาลี มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รวดเร็วเกินไปในช่วงแรกๆ ที่ระบาด
ในขณะที่ญี่ปุ่น สิงคโปร์และฮ่องกง สามารถควบคุมไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ เกิดมาก และเร็วเกินไปกล่าวคือ เส้นกราฟสีแดง คือประเทศไทย และมันกำลังเลือกว่า มันจะกระดกขึ้นชันแบบอิตาลี,อิหร่านดี หรือว่ามันจะผงกหัวลงมาเป็นแบบญี่ปุ่น,สิงคโปร์,ฮ่องกง เส้นกราฟสีแดง จึงกำลังอยู่ในจุดหักเหที่สำคัญที่สุด จำนวนผู้ติดเชื้อใน 5-7 วันต่อไปนี้ จะเป็นตัวกำหนดเส้นกราฟสีแดงเส้นนี้ครับ
นี่คือเบื้องหลังของเหตุผลที่เมื่อวานนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเรื่องนี้แลกมากับความเจ็บปวดและความไม่พอใจของประชาชนจำนวนมาก เฮ้อ…..ผมไม่น่าเขียนแบบนี้เลย
มันเหมือนผู้ช่วยโฆษกรัฐบาลเข้าไปแล้วจริงๆ ผมไม่รู้ว่า ทำไมรัฐบาลไม่สื่อสารให้ดีๆหรือสื่อสารไม่ดีพอ หรือสื่อสารให้มากกว่านี้ อะไรก็ตามเถอะผมยังยืนยันว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโทษกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ยิ่งไม่ใช่เวลามาโทษกันว่าเพราะใคร พวกเราต้องช่วยกัน
พวกเรานอกจากอ่านเข้าใจแล้ว ยังอาจจะต้องช่วยกันทำความเข้าใจเรื่องนี้การตัดสินใจครั้งนี้ให้กับคนอื่นๆ อีก ไม่อยากจะบอกว่า เหมือนเราช่วยกันเป็นโฆษกให้รัฐบาลเลย อะ หรือจะไม่ต้องคิดแบบนั้นก็ได้นะครับ ให้คิดว่าเรากำลังทำเพื่อตัวเราเอง เพื่อครอบครัวของเราและเพื่อคนที่เรารัก ก็อาจจะดีกว่า
เฮ้อ……. เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่พวกเราคนไทยจะต้องช่วยกันให้มากที่สุด ก็คือช่วยทำให้กราฟเส้นสีแดงนี้ ไม่ผงกหัวกระดกขึ้นไปเหมือนอิตาลีให้ดีที่สุด ภายใน 5-7 วันข้างหน้านี้ครับ ศึกนี้ใหญ่หลวงนักแต่เราช่วยประเทศชาติได้ โดยไม่ต้องไปถืออาวุธ สู้ศึกเหมือนสมัยโบราณครับ เราช่วยประเทศชาติชนะศึกได้ด้วยการแค่อยู่บ้านเฉยๆ เท่านั้นเองครับ
อาจจะเจ็บปวดบ้าง อาจจะอึดอัดกันบ้าง แต่ก็ขอให้นึกเสียว่า เป็นความเจ็บปวดที่เราจะช่วยประเทศชาติและส่วนรวม ขอให้นึกเสียว่า เป็นความอึดอัดที่เราอาจจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างและถ้าใครจะช่วยสวดมนต์ ในช่วงนี้ ก็ช่วยสวดให้กราฟเส้นสีแดงเส้นนี้ ขอความกรุณาแบนราบลงด้วยเถอะครับ
ข้อมูลข่าวจาก: ข่าวสด และ นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ เที่ยงวันอาทิตย์ 22 มีนาคม 2563