กห.พร้อมชะลอโครงการซื้ออาวุธ ร่วมมือฟื้นฟูประเทศหลังโควิด-19 ให้เหล่าทัพทบทวนงบฯ63 ทั้งส่วนผูกผันงบฯแต่ดำรงสภาพความพร้อมรบ ด้านทร. ดูสัญญา-ข้อกฎหมายเรือดำน้ำลำที่ 2-3
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการพิจารณาการตัดโอนงบประมาณ 2563 ในส่วนของโครงการและการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ กระทรวงกลาโหม เพื่อนำมาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ว่า กระทรวงกลาโหมก็ได้มองสถานการณ์และคิดไว้ล่วงหน้า และทราบดีถึงเหตุผลความจำเป็นของสถานการณ์เหล่านี้ดีว่าประเทศชาติต้องไปต่อและต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ในส่วนของกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพทำหน้าที่ป้องกันประเทศ ช่วยเหลือประชาชน และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประเทศ ขณะเดียวกันต้องคงสภาพความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศ ดูแลความปลอดภัย และผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ก็ต้องดูความเร่งด่วนการจัดหายุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพด้วย
“โครงการไหนสมควรชะลอก็ควรชะลอ โครงการไหนสามารถดำเนินการในปีต่อๆ ไป โดยไม่กระทบต่อสัญญากับต่างประเทศก็ต้องทำ ขณะนี้เหล่าทัพกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมีโครงการใดบ้างในงบประมาณปี 2563 และจะหารือกันต่อเนื่องไปถึงโครงการในงบประมาณปี 2564 ในภาพรวมด้วยหลักการทบทวนโครงการคือดูการดำรงสภาพความพร้อมต่อไป
ส่วนการเพิ่มขีดความสามารถก็ให้ชะลอไปก่อน และต้องไม่กระทบต่อสัญญาที่ทำไว้กับต่างประเทศ ขณะนี้งบประมาณ 2563 ได้เริ่มการใช้จ่ายแล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะเริ่มตัดโอนวันไหน เพราะโครงการต่างๆ เป็นงบฯผูกพัน ซึ่งเป็นเรื่องของทุกกระทรวงก็ต้องพิจารณาเช่นกัน” พล.ท.คงชีพ กล่าว
เมื่อถามถึงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า กองทัพเรือกำลังพิจารณาเรื่องสัญญา และข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ ซึ่งต้องคลอบคลุมไปถึงงบประมาณปี 2564 ที่ต้องจัดสรรเพื่อฟื้นฟูประเทศชาติ ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย
ข้อมุลจาก เดลินิวส์