นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการเยียวยา และชดเชยให้กับภาคเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวนเงิน 5,000 บาท 3 เดือน เกษตรกรจำนวนมากได้เดินทางไปที่สำนักงานของกรมส่งเสริมการเกษตรในต่างจังหวัดเพื่อสอบถามความชัดเจนว่าเมื่อไหร่จะได้เงินจะใช้เวลามากน้อยเพียงใด ขณะนี้ต้องยอมรับว่าทะเบียนเกษตรกร ยังมีความซ้ำซ้อนกันอยู่มาก จึงอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบสิทธิ์
ทั้งนี้ เรื่องของสิทธิ์การได้รับการเยียวยา เกษตรกรต้องกลับไปดูเล่มทะเบียนสีเขียว ซึ่งออกโดยกรมส่งเสริมการเกษตร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทะเบียนเกษตรกรว่ามีการอัพเดท หรือปรับปรุงข้อมูลหรือไม่ หากไม่มีการปรับปรุงข้อมูล อาจจะไม่มีสิทธิรับเงินเยียวยา ตามระเบียบหากไม่มีการติดต่อ หรือปรับปรุงทะเบียน แสดงว่าไม่มีการยืนยันตัวตน ว่ายังประกอบอาชีพเกษตรกร หากเกิน 3 ปี อาจสูญเสียโอกาสรับเงินเยียวยา
“เกษตรกรต้องกลับไปดูเล่มทะเบียนหากไม่เคยปรับปรุงตั้งแต่ปี 2560 เสี่ยงมากที่จะไม่ได้รับเงิน 5,000 บาท 3 เดือนแต่ หากมีการปรับปรุงทะเบียน ในปี 2561-ปัจจุบัน ไม่น่ามีปัญหา ขอให้คลายความกังวลได้ แต่เพื่อความมั่นใจขอให้เกษตรกรตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลทะเบียน ก่อนที่รัฐบาลจะอนุมัติจ่ายเงิน ส่วนเกษตรกรที่ทำการเกษตรจริงๆ แต่ไม่เคยลงทะเบียน แต่ผู้นำชุมชนสามารถตรวจสอบได้ กลุ่มนี้สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนกับเกษตรจังหวัด เพื่อยืนยันตัวตนได้ว่าประกอบอาชีพเกษตรกรรม และสามารถรับเงินเยียวยาได้เช่นกัน”
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ยังเฝ้าติดตามผลผลิตสินค้าเกษตรให้ระบายสินค้าผ่านการขายทุกช่องทางเพื่อไม่ให้เกิดภาวะสินค้าราคาต่ำและล้นตลาด โดยล่าสุดได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดเร่งสำรวจสินค้าเกษตรในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนกำหนดมาตรการและแนวทางสำหรับเตรียมการช่วยเหลือเกษตรกร โดยให้ติดตามสถานการณ์ของสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด โดยใช้โครงสร้างระบบการบริหารจัดการผ่านคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) และกรณีที่ต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมให้แจ้งกรมส่งเสริมการเกษตรทราบโดยด่วน
“กรมได้ประสานหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน สั่งซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรโดยตรงเพื่อรับประทาน แบบออนไลน์จาก 77 จังหวัด, Website Grand Opening, LAZADA, Shopee, Line, Facebook, 24shopping, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เข้าไปรับซื้อและช่วยกระจายผัก ผลไม้ไทย และเปิดพื้นที่ให้ขายฟรีหลายพื้นที่ เต็มที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย”
ข้อมูลข่าวจาก ประชาชาติ