เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 วันที่ 5 ของการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการ 6 กิจการและกิจรรม ระยะที่ 1 (14 วัน) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ภายในห้องโถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน ว่า ที่ประชุมศบค.เต็มคณะวันนี้ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค.กล่าวที่ในที่ประชุม ว่า
“ขอให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและให้ความสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างเข้มงวด และให้กำหลังใจ แม้จะอยู่ในสถาการณ์ที่น่าพอใจแต่ยังต้องเข้มงวด และไม่ให้มีเชื้อเข้ามาในประเทศ และห้ามละเลยมาตรการ และให้หน่วยงานความมั่นคงเข้าไปตรวจและดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการอย่างใกล้ชิด รวมถึงมาตการด้านต่างประเทศ และการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผกระทบและเก็บตกผู้ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานให้ได้เบี้ยเลี้ยงตามสิทธิ์ที่ได้รับ”
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในต่างประเทศยังมีการระบาดอย่างต่องเนื่อง และผลกระทบยังมีคนไทยกลับมาจากต่างประเทศและมีการติดเชื้อ และต่างประเทศยังมีการระบาดระลอกที่สอง ส่วนสถานการรณภายในประเทศส่วนใหญ่มาตรการกลับจากต่างประเทศและการเคลื่อนย้ายของประชากร โดยเฉพาะกทม.-ปริมณฑลและภูเก็ต สองการมั่วสุม หรือ การดื่มสุรา จึงต้องดำเนินมาตรการภายในประเทศอย่างเข้มขั้นและตรวจคนที่เข้ามาภายในประเทศ เช่น รถไฟฟ้า เช่น ความแออัด
“ที่ประชุมเห็นตรงกัน คือ มาตรการเหลื่อมการเวลาทำงาน 30 นาทีคงไม่พอ แต่ต้องให้มีหลายเวลา เหลื่อมเวลามากขึ้น เพราะการแออัดในระบบขนส่งมวลชน สอง ทำงานที่บ้าน ต้องให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เพื่อลดการเคลื่อนย้าย และสาม สถานศึกษา เตรียมขยายการเปิดภาคเรียนและใช้เทคโนโลยีในการอำนวยการเรียนการสอน กิจกรรมในสวนสาธารณะ เช่น การวิ่ง ต้องไม่แพร่กระจายโรค เพียงเดินเท่านั้นก็คงจะเพียงพอ ไม่แนะนำให้วิ่ง”
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ประเด็นที่สอง การรายงานการดำเนินการมาตรการผ่อนปรนสถานที่ต่าง ๆ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงาน เช่น เรื่องการปิดสถานดูแลผู้สูงอายุ ประเภทไปกลับขอให้ปิดเพราะเสี่ยงการแพร่เชื้อ แต่ประเภทค้างคืนหรือนอนติดเตียงให้ดำเนินการต่อไปได้
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ สินเชื่อในห้าง ประชาชนจำเป็นต้องซื้อหา ที่ประชุมจึงเห็นชอบระดับหนึ่ง ส่วนในข้อกฎหมายให้นายวิษณุไปดูว่าจะผ่อนปรนอย่างไรไม่ให้ขัดกับกฎหมาย โดยให้กระทรวงมหาดไทยสรุปต่อไป
“ไทม์ไลน์การผ่อนปรนในระยะที่สอง หรือ กิจการและกิจกรรมสีเขียวจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่นั้น วันที่ 8-12 พ.ค. การรับฟังความคิดเห็น 13 พ.ค.จะซักซ้อม ทำความเข้าใจ และวันที่ 14 พ.ค.จะยกร่างผ่อนปรนระยะที่สองเพื่อเสนอนายก ฯ ถ้าไม่เกิดมีผู้ติดเชื้อสูง และ 17 พ.ค. จะเริ่มผ่อนปรนระยะที่สอง แต่ก่อนจะถึงวันที่ 17 พ.ค.ขอให้ทุกคนช่วยกัน เป็นกิจการขนาดใหญ่ขึ้น”
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การเปิดห้างสรรสินค้าในวันที่ 17 พ.ค.นั้น ถ้าประชาชนร่วมมือได้ดีเปิดแน่นอน ทุกคนต้องการกลับไปสู่ปกติ เพื่อให้มีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคม แต่ละธุรกิจถ้ามั่นใจและมีมาตรการที่ดี ผู้ประกอบการต้องคิดด้วย อาจจะมีการรวมกลุ่มกันเป็นองค์กรและมีมาตรการตรวจสอบระหว่างกันก็จะทำให้การทำงานรวดเร็วและเป็นไปได้ด้วยดี สุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชนต้องร่วมมือกัน และต้องทำวันนี้ให้ดี วันที่ 17 พ.ค.อีก 10 วันข้างหน้า ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเป็นหลักเดียว จะได้ไปเดินได้อีกหลายสถานที่ในวันข้างหน้า
ข้อมูลข่าวจาก ประชาชาติ