<h3></h3> <h3><!--more--></h3> <h3>รมว.ยุติธรรม แถลงตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ 108 เครือข่าย ยึดทรัพย์กว่า 1,599.75 ล้านบาท ตามนโยบายรัฐบาล เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2563</h3> <h3>ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น. ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. และผู้แทนหน่วยงานภาคี ร่วมกันแถลงผลงานบูรณาการยึดทรัพย์สิน ตัดเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด</h3> <h3>โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้เดินหน้าตัดวงจรค้ายาเสพติดตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เน้นการสืบสวนสอบสวนทางการเงินเพื่อขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์สิน เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากประเทศไทย ซึ่งตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 จนถึงปัจจุบัน สามารถทำลายเครือข่ายทั้งประเทศได้ 108 เครือข่าย มูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะยึดทรัพย์ให้ได้ 1,500 ล้านบาท ในปีงบประมาณนี้ และเวลานี้ ยังมีเวลาอีกเดือนครึ่ง ตนเองอาจจะแถลงอีกครั้ง ส่วนตัวมั่นใจว่าการยึดทรัพย์ 1,500 ล้านบาท ที่ตั้งไว้ ยังน้อยเกินไป เพราะเพียงแค่ 10 เดือนกว่า ในปีงบประมาณนี้ สามารถยึดเครือข่ายรวม 1,599.75 ล้านบาท</h3> <h3><span style="color: #800000;">“ผมจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ แถลงอีกครั้งหนึ่ง มั่นใจว่า ตัวเลขยึดทรัพย์ที่จะแถลง จะทำให้มากกว่า 1,500 ล้านบาท ปีนี้ เราทำได้อย่างจริงจังในช่วงท้าย เพราะเรามีการปรับเปลี่ยนวิธีการและดำเนินการ จากที่ตั้งเป้าไว้ 1,500 ล้านบาท ได้เรียบร้อย ถ้าแถลงอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ น่าจะเพิ่มมากกว่านี้”</span> นายสมศักดิ์ กล่าว</h3> <h3>ด้าน เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมอบนโยบายมา 3 ประเด็น คือ ประเด็นที่หนึ่ง เรื่องการบูรณาการการปฏิบัติ ทั้งการดำเนินการด้านการปฏิบัติการ การใช้เครื่องมือทางกฎหมาย การปฎิบัติการเรื่องข้อมูล หรือเทคโนโลยีที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ ผลการดำเนินงานนั้นมีความคืบหน้า ประเด็นที่สอง เรื่องการปรับกระบวนการทำงาน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการไปแล้ว 2 ครั้ง เพื่อที่จะปรับแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การทำงานมีความกระชับ และเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และประเด็นที่สาม การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์ ได้แก่ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะใช้เสริมในการสืบสวนสอบสวนให้เกิดประสิทธิภาพในการยึดทรัพย์และการฝากเงินให้ได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้สำนักงาน ป.ป.ส. หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. เพื่อป้องกันและปราบปรามการนำเงินสดสกุลดิจิตอลเข้ามาสู่กระบวนการค้าในตลาดหลักทรัพย์และการฟอกเงิน ซึ่งทาง กลต. จะดำเนินการจัดทำแผนผังเพื่อที่จะดูว่าการใช้เงินสกุลดิจิตอลสำหรับการฝากเงินจะทำอย่างไร และจะป้องกันอย่างไร ส่วนการพัฒนาองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชื่อว่า การดำเนินการปราบปรามและตัดวงจรการค้ายาเสพติดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น</h3> <h3></h3> <h3><img class="size-full wp-image-17479 aligncenter" src="https://katipnews.com/wp-content/uploads/2020/08/IMG_20200807170850000000.jpg" alt="" width="584" height="390" /></h3> <h3>ขณะที่ รอง ผบช.ปส. รายงานผลการดำเดินการในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ว่า สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศได้ 55 เครือข่าย 91 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 187 คน ของกลางยาบ้า 3,757,280 เม็ด ไอซ์ 1,454 กิโลกรัม เฮโรอีน 8.4 กิโลกรัม คีตามีน 3.6 กิโลกรัม และกัญชา 2,092 กิโลกรัม โดยยึดทรัพย์ 155 รายการ มูลค่า 212,178,494 บาท รวมยึดทรัพย์สินทั้งหมด 543 รายการ มูลค่า 251,943,494 บาท</h3> <h3>ทั้งนี้ จากปฏิบัติการล่าสุด เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ภายใต้ปฏิบัติการยุทธการสยบไพรี 63/16 “ยุทธการทลายขุมทรัพย์ จับแก๊งยานรก” สนธิกำลังเข้าจับกุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งแนวชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ ชายแดนภาคกลาง ภาคใต้ และประเทศที่สาม สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ยึดอาคารพาณิชย์ 5 คูหา จังหวัดเชียงใหม่ และบ้าน 24 หลัง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯและประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงโฉนดที่ดิน 12 แปลง จังหวัดเชียงใหม่ รถยนต์ 22 คัน รถจักรยานยนต์ 27 คัน อายัดบัญชีตรวจสอบ 52 บัญชี พร้อมบัตรกดเงินสด 5 รายการ รวมยึดทรัพย์สินทั้งหมด 147 รายการ มูลค่า 202,585,000 บาท</h3> <h3></h3>