วันที่ 12 ตุลาคม 2563 ที่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 15 บ.ห้วยหลาวเหนือ ต.เขวาไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.มหาสารคาม พร้อมด้วยหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ แรงงานจังหวัด,สวัสดิการสังคมจังหวัด,จัดหางานจังหวัด และประกันสังคมจังหวัด ลงพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต จากกรณีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ รถไฟขนส่งสินค้าบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จากชลบุรี มุ่งหน้าเข้าคลังสินค้าที่ลาดกระบัง กทม.ชนรถบัสที่จะไปทอดกฐิน ที่วัดบางปลานัก อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
เหตุเกิดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2563 เป็นเหตุให้ น.ส.พวงพยอม คานแก้ว อายุ 33 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดใจนี้ ทั้งนี้สนง.ประกันสังคมจังหวัดมหาสารคาม เร่งให้ความช่วยเหลือพร้อมที่จะดูแลให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับญาติซึ่งเป็นบิดา มารดาของ ผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ โดยมอบประโยชน์ทดแทนกรณีตาย จากกองทุนประกันสังคม เช่น
-เงินค่าทำศพ จำนวน 50,000.00 บาท
-เงินสงเคราะห์ทายาท จำนวน 19,016.66 บาท
-และเงินบำเหน็จ จำนวน 48,080.35 บาท
-รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 117,097.01 บาท
นายบุญล้อม คานแก้ว บิดาของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า นางสาวพวงพยอม คานแก้ว เป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว ซึ่งได้ส่งเข้าจนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จ.ชลบุรี หลังจากนั้นได้เข้าไปทำงานโรงงานที่ กทม. เมื่อปี 2555
โดยน.ส.พวงพยอม เป็นเสาของบ้าน พอถึงเทศกาลก็จะกลับลงมาช่วยพ่อแม่ทำนาแล้วขึ้นไปทำงานต่อ และจะส่งเงินกลับมาบ้านโดยครั้งล่าสุดได้ส่งเงินให้พ่อและแม่จำนวน 7,000 บาทเพื่อใช้จ่ายภายในบ้านและส่งค่างวดรถมอเตอร์ไซค์ ให้กับนายสุทธิลักษณ์ คานแก้ว อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นน้องชายคนเล็กในจำนวนพี่น้อง 2 คนของครอบครัว โดยปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ศุนย์ การศึกษานอกโรงเรียน อ.นาชือก จ.มหาสารคาม นางหอมจัน คานแก้ว มารดาของผู้เสียใจ ซึ่งอยู่ในอาการเสียใจสะอื้นร่ำให้แทบขาดใจถึงการสูญเสียของลูกสาว ว่าลูกสาวเคยรับปากไว้ว่าจะมาสร้างบ้านของพ่อและแม่ให้เสร็จ แต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน
ซึ่งตอนค่ำวันที่ 10 ตุลาคม 2563 ยังคุยกับลูกสาวอยู่ว่าหนูจะไปทำบุญทอดกฐินกับเพื่อนๆในโรงงานลูกแม่ก็อนุญาติให้ไป ซึ่งลูกสาวจะโทรแม่อยู่ตลอดเวลา โดยในพักหลังลูกสาวจะคุยกับถี่ขึ้นเหมือนอยากจะคุยกับแม่อยู่ตลอดเวลา
และเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ตุลาคม 2563 เวลาประมาณ 06.30 น. ยังโทรมาหาแม่และบอกกับแม่ว่าจะขอมานั่งด้านข้างหน้ารถเพราะนั่งข้างหลังเสียงดังเหลือเกิน หลังจากนั้นก็ไม่เคยโทรมาหาเลย จนมารู้ข่าวอีกทีว่าลูกสาวเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว
ด้านนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.มหาสารคาม กล่าวว่า ทางจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้ลงพื้นที่เพื่อมาเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัสกฐิน เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้นำศพมาที่ อ.นาเชือก ในเวลา 01.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2563 โดยได้มอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิ มาตรา 33 ด้วยยอดรวมจำนวน 117,097.01 บาท มอบให้กับพ่อแม่ผู้เสียชีวิต เพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.พวงพยอม คานแก้วที่ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 15 บ.ห้วยหลาวเหนือ ต.เขวาไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 12-17 ตุลาคม 2563 และฌาปนกิจในวันที่ 18 ตุลาคม 2563 ณ วัดบ้านห้วยหลาว ต.เขวาไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
ภาณุวัชร-ข่าว/อนิรุธ-ภาพ