นายกฯ ประชุมร่วมผู้ว่าฯพื้นที่สีแดงเข้ม สั่งการให้แต่ละจังหวัดเพิ่มเตียงให้พอ เฝ้าระวังระบาดข้ามจังหวัด เชื่อ 4-6 สัปดาห์สถานการณ์จะดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วมผู้ว่าราชการจังหวัดสีแดงเข้ม 12 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพฯ ที่ประชุมก่อนหน้านี้โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ zoom จากบ้านพัก ภายในกรมทราบราบ มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เพื่อหารือถึงแนวทางการรับมือกับการแพร่ระบาด การให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย การตั้งโรงพยาบาลสนามต่างๆ รวมทั้งการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน
นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงสถานการณ์และความพร้อมของแต่ละจังหวัด โดยเน้นย้ำให้แต่ละจังหวัดเสนอปัญหาข้อติดขัด เพื่อรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เฝ้าระวังการระบาดข้ามจังหวัด และให้มีส่วนภาคต่างๆเข้าร่วมสนับสนุน
ขณะเดียวกันจะใช้ระบบ bubble and seal ในพื้นที่โรงงานและแคมป์แรงงาน เช่น ฉะเชิงเทรา ซึ่งคลัสเตอร์โรงงานเป็นแหล่งระบาดหนัก และมีคนงานเดินทางข้ามจังหวัดมา เช่น สมุทรปราการ จึงต้องใช้มาตรการฉีดวัคซีน จัดหาที่พัก จนไปถึงระดับสูงสุดคือปิด 14 วัน
นายกรัฐมนตรี ยังกังวลสถานที่ตรวจของเอกชน ที่เมื่อตรวจเจอแล้วไม่ทำอะไรต่อ ดังนั้นจึงให้ไปแก้ปัญหาการโดยการเพิ่มเตียงผู้ป่วยสีแดง โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวบรวมเสนอ และกระทรวงสาธารณสุขต้องประเมินผู้ป่วยหายกลับบ้านซึ่งจะโยงไปถึงเตียงที่ว่าเชื่อมโยงรับผู้ป่วยใหม่ รวมถึงให้ประเมินสถานการณ์ แต่ละสัปดาห์ ขณะเดียวกันก็ห่วงการแพร่ระบาดในบ้านจัดสรร ให้หน่วยงานเข้าไปสำรวจด้วย และจากการประเมินทางการแพทย์ เชื่อว่า 4-6 สัปดาห์สถานการณ์จะดีขึ้น
นายกระฐมนตรี บอกด้วยว่า หากขาดงบประมาณ เช่นการเพิ่มเตียง อุปกรณ์การแพทย์ ให้เสนอเข้ามา พร้อมประสาน Call center จัดทำศูนย์พักคอย ชุดตรวจหาผู้ป่วยในพื้นที่ Hospitel รพ. สนาม รวมถึงทำแผนกระจายวัคซีนไปแต่ละจังหวัดเพื่อจัดสรรต่อไป
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีห่วงเรื่องตลาด หากแพราะระบาดแล้วต้องปิดตลาดจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร เพื่อให้ทำมาหากินต่อได้ รวมทั้งขอให้เร่งกระจาย ยารักษาโควิดไปทุกจังหวัดไม่ให้ขาดแคลน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีบอกด้วยว่า สถานการณ์อาจจะยังไม่ดีขึ้นในเร็ววัน แต่เราจะพยายามควบคุมให้ดีที่สุด ให้ดูสถานการณ์โลกด้วย จะเข้าใจยิ่งขึ้น
ที่มาข่าว CH3ThailandNews