ตำรวจไซเบอร์เผยข้อมูลพิยดาฉ้อโกงลวงโลก พบมีคดีแจ้งความทั่วประเทศมากกว่า 40 คดี เตรียมส่งข้อมูลให้แต่ละสถานีตำรวจออกหมายจับพร้อมกัน และเร่งเอาผิดผู้เปิดบัญชีม้ารับโอนเงินแทนซึ่งมีมากกว่า 100 บัญชีทั่วประเทศ
พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนเพื่อสนับสนุนข้อมูลในการดำเนินคดีกับพิยดาจอมลวงโลก ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงซึ่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้เบื้องต้นจากการสืบสวนสอบสวนทางเทคนิคพบว่าผู้ต้องหามีการใช้บัญชีของบุคคลอื่น หรือ บัญชีม้า เพื่อส่งถ่ายเงินไปยังบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหามากกว่า 100 บัญชี โดยพบว่ามีบัญชีที่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวของผู้ต้องหาชัดเจนประมาณ 40 บัญชี ซึ่งขณะนี้ตำรวจทราบบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีต่างๆแล้ว และเตรียมออกหมายเรียกมาสอบปากคำถึงสาเหตุในการเปิดบัญชีรับโอนเงินให้กับผู้ต้องหา ทั้งนี้จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหามีการว่าจ้างบุคคลอื่นให้เปิดบัญชีและรับโอนเงินส่งต่อไปยังบัญชีส่วนตัวให้บัญชีละ 8,000 บาท โดยมีการประกาศว่าจ้างเปิดบัญชีในโลกโซเชียลอย่างชัดเจน ทั้งนี้จากการสอบปากคำหากพบว่าผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีรายใดรู้เห็นเป็นใจหรือสนับสนุนการกระทำความผิดของผู้ต้องหาก็จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน
ขณะที่การตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความของตำรวจทั่วประเทศพบว่า มีคดีที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ต้องหาเป็นจำนวนมากกว่า 40 คดีทั่วประเทศ แต่บางพื้นที่ยังไม่สามารถดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาได้เนื่องจากไม่มีข้อมูลทางเทคนิคไปยื่นต่อศาลให้ออกหมายจับให้ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจ บช.สอท. อยู่ระหว่างการทำสรุปข้อมูลพยานหลักฐานทางเทคนิคต่างๆที่เกี่ยวข้องซึ่งเชื่อว่าสามารถใช้ในการขอศาลออกหมายจับได้ และจะส่งต่อไปยังสถานีตำรวจต่างๆที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ เพื่อออกหมายจับและอายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีต่อในพื้นที่อื่นๆต่อ ทั้งนี้เฉพาะพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลพบว่ามีคดีที่เกี่ยวข้องกับพิยดาลวงโลก มากกว่า 20 คดี จึงเตรียมประสานกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเรื่องการดำเนินการออกหมายจับอีกขั้นตอนหนึ่ง