เมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จะมีการโอนเงินให้กับประชาชน 3 กลุ่มหลัก ซึ่งเป็นเงินเบี้ยยังชีพ เงินช่วยเหลือ และเงินอุดหนุนเด็ก กรมบัญชีกลางจะมีเงินโอนให้ดังนี้
1.เบี้ยผู้สูงอายุ 600 -1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท อายุ 90 ปี ขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท ทางภาครัฐยืนยันแล้วว่า ยังไม่มีการปรับหลักเกณฑ์แต่อย่างใด ยังมีเงินเข้าแน่นอน
สำหรับ การรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สามารถเลือกวิธีการขอรับได้ ดังนี้ ขอรับเป็นเงินสด (รับด้วยตัวเอง หรือ รับผ่านคนที่ได้รับมอบอำนาจ) โอนเงินเข้าบัญชี (ของตัวเอง หรือ ของคนที่ได้รับมอบอำนาจ)
โดยเงินผู้สูงอายุ ทางภาครัฐ จะจ่ายให้ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน ซึ่งถ้าหากวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ตรงกับวันหยุด รัฐจะเลื่อนเวลาการจ่ายเงิน เป็นก่อนวันที่ 10 ซึ่งเดือนตุลาคมนี้ตรงกับวันที่ 8
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คือสวัสดิการที่ทางภาครัฐ จัดสรรขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เนื่องจากรายได้ จากอาชีพผู้สูงอายุ ที่ทำอยู่ในแต่ละเดือน อาจไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย
2.เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ
-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับ 1,000 บาท/เดือน (จากเดิม 800 บาท/เดือน) โอนเข้าบัญชีทุกเดือน
-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้พิการ โอนเข้าบัญชี 800 บาท
-ผู้พิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะได้รับเงินเบี้ยผู้พิการ โอนเข้าบัญชีผู้พิการคนละ 800 บาท และได้เงินพิเศษ 200 บาท โอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอนเข้าประมาณวันที่ 22 ตุลาคม กดเป็นเงินสดมาใช้ได้เลย
3.เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด 600 บาท ต่อเด็ก 1 คน กลุ่มเด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 6 ขวบ ผู้ปกครองจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท เหมือนเดิม โดยธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีจ่ายตรงงวดและจ่ายตกเบิกให้กับผู้มีสิทธิ ดังนี้
ผู้มีสิทธิรับเงินอุดหนุนรายเดิม (กลุ่มเด็กที่เกิดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป) จ่ายตรงงวด จำนวน 600 บาทต่อเดือน
ผู้มีสิทธิรายใหม่ที่ผ่านการพิจารณา ข้อมูลสมบูรณ์ในระบบฐานข้อมูลโครงการเงินอุดหนุนฯภายในวันที่ 25 กันยายน 2564 จ่ายย้อนหลังในเดือนที่ยื่นขอรับสิทธิ
ข้อมูลข่าวจาก ข่าวสด