นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาราคาข้าวอย่างใกล้ชิด และหลังการรายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.)ไปแล้ว โดยนายจุรินทร์ได้ติดตามกระบวนการทำงานของระบบราชการเกี่ยวกับเงินงวดแรกของโครงการประกันรายได้เกษตรกร ในสถานการณ์ราคาข้าวปัจจุบัน
โดยนายจุรินทร์ได้รับรายงานจากนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวระบุว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 และเพื่อให้การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 ตามนโยบายที่ประกาศต่อรัฐสภาซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 23/2564 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 หรือ งวดที่ 1 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2564 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % ดังนี้ คือ
• ข้าวเปลือกหอมมะลิ 10,864.23 บาท/ตัน ชดเชยตันละ 4,135.77 บาท
• ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 10,407.75 บาท/ตัน ชดเชยตันละ 3,595.25 บาท
• ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 9,947.87 บาท/ตัน ชดเชยตันละ 1,052.13 บาท
• ข้าวเปลือกเจ้า 8,065.38 บาท/ตัน ชดเชยตันละ 1,934.62 บาท
• ข้าวเปลือกเหนียว 7,662.53 บาท/ตัน ชดเชยตันละ 4,337.47 บาท
สำหรับการโอนเงินส่วนต่างงวดแรกตามโครงการประกันรายได้ปี 2564/65 กลไกต่อไป จะเป็นงานในหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ดำเนินการจ่ายเงินส่วนต่าง ซึ่งตามกฏหมายต้องจ่ายภายใน 3 วันหลังอนุกรรมการประกาศราคาอ้างอิง ซึ่งได้ประกาศเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน จากมีข้อทางเทคนิคที่ต้องรายงาน ครม. ได้รับทราบผลการหารือเกี่ยวกับอัตราต้นทุนเงินของ ธ.ก.ส. ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และ ธ.ก.ส. ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ซึ่งกรมการค้าภายในได้จัดให้ทำการหารือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 และจะได้นำเสนอในการประชุม ครม. เพื่อรับทราบแล้ววานนี้ตามที่กล่าว
” เมื่อประกาศลงวันที่ 4 พฤศจิกายนต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ธนาคาร ธ.ก.ส.ดำเนินการระบบการโอนเงินด้วย วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 5 พ.ย. แล้วติดเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้นจึงตรวจสอบเบื้องต้นจาก ธ.ก.ส.เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวนาได้สบายใจทางธนาคารแจ้งว่า จะสามารถโอนได้วันที่ 9 พ.ย.2564 นี้ ซึ่งก็ไม่เกินจากวันที่ประกาศกำหนดไว้ ด้วยความห่วงใยจากรัฐบาลและรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ” นางมัลลิกา กล่าว