ตะไคร้เป็นพืชผักสวนครัวที่นำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารหลายชนิด เป็นพืชล้มลุก สูงประมาณ 4-6 ฟุต ลำต้นจริงสูง 4-7 เซนติเมตรเท่านั้น ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนา ลำต้นรวมกันเป็นกอ ถูกห่อหุ้มด้วยกาบใบโดยรอบ ลักษณะใบยาวแคบ เส้นใบขนานกับก้านใบ
ที่ตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี มีแปลงปลูกตะไคร้ ขนาดพื้นที่ 100 ไร่ โดยมี คุณพยนต์ มูลเกิด หนุ่มวิศวะหัวใจเกษตรเป็นเจ้าของ
คุณพยนต์ เล่าว่า หลังจากจบการศึกษา ก็มาทำอาชีพวิศวกร สักพักหนึ่ง จากนั้น ต้องการมีอาชีพอิสระเป็นของตัวเอง เดิมมีที่ดินอยู่ 4 ไร่ ก็ทดลองปลูกตะไคร้ เนื่องจากมองว่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย คนยังไม่ปลูกไม่เยอะ รวมทั้งไปดูว่ามีใครรับซื้ออยู่ที่ไหน
หลังจากได้ช่องทางการขาย รวมทั้งปลูกชำนาญแล้ว คุณพยนต์ ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ แล้วมาเช่าที่ดิน 100 ไร่ ปลูกตะไคร้ เพื่อให้ได้เก็บขายตลอดทั้งปี
สำหรับการปลูกตะไคร้ นั้น เนื่องจากตะไคร้เป็นพืชที่ชอบน้ำ สามารถปลูกได้ทุกฤดูในดินแทบทุกชนิด แต่ในขณะเดียวกันสามารถโดนแดดได้ตลอดวัน โดยสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์พื้นบ้าน และ พันธุ์เกษตร
การปลูก เริ่มจาก ขุดหลุม ปลูกหลุมละ 2 ต้น ระยะห่างระหว่างต้น ระหว่างแถว 1 คูณ 1 เมตร การปลูกก็ปักลงไปเลย โดยขึงเชือกปลูกเพื่อให้แนวตรง
หลังจากปลูกแล้ว ก็ให้น้ำทันทีเพื่อกระตุ้นให้แตกรากแตกใบ จากนั้น ก็ให้น้ำทุกวันในช่วงเช้า ส่วนปุ๋ยจะให้เมื่อแตกรากแตกใบดีแล้ว นั้นคือประมาณ ปลูกไปแล้ว 1 เดือน
เมื่อครบ 6 เดือน เก็บตะไคร้ขายได้ โดยขุดมาทั้งกอ แล้วแบ่งออกเป็นต้นๆ ตัดราก ตัดกาบแห้งๆ จนได้ต้นสดๆขาวๆ ตัดใบออก โดยให้มีความยาวทั้งต้นทั้งใบราว 45 เซนติเมตร นำมามัดรวมกัน มัดละ 10 กิโลกรัมเพื่อสะดวกในการส่งขาย ราคาขายเฉลี่ยทั้งปีที่กิโลกรัมละประมาณ 12 บาท
การส่งขาย มีสองรูปแบบคือ ส่งโรงงานที่ส่งออกนอก แบบนี้จะได้ราคาดี คือประมาณ 15-40 บาท แต่ต้องเลือกตะไคร้เกรดสวยๆ และอีกแบบคือส่งขายภายในประเทศทั้งโรงงาน ตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง โดยมีสัดส่วน การส่งขายในแบบแรก (ส่งโรงงานส่งนอก) ประมาณ 80 เปอร์เซนต์ และแบบหลัง (ในประเทศ) อีก 20 เปอร์เซนต์
คำถามคือ ที่ส่งออกนอกประเทศ เค้าเอาไปทำอะไรกัน คุณพยนต์ บอกว่า ส่วนหนึ่งขายในร้านอาหารไทยในต่างประเทศ อีกส่วนขายโรงงานทำชา และบางส่วนไปที่ธุรกิจสปา
ที่แปลงตะไคร้ 100 ไร่แห่งนี้ มีปริมาณผลผลิตเฉลี่ย วันละ 2000 กิโลกรัม (ทั้งนี้ในพื้นที่ 1 ไร่ จะให้ผลผลิต 2500 กิโลกรัม แต่ทั้ง 100 ไร่ให้ผลผลิตไม่พร้อมกัน โดยจะแบ่งโซนให้ทยอยกันมีผลผลิตออกมา)
สำหรับคำแนะนำผู้ที่สนใจปลูกตะไคร้ เป็นอาชีพ คุณพยนต์แนะนำว่า ขั้นแรก ควรหาตลาดก่อนว่า ปลูกแล้วจะขายที่ไหน มีที่ส่งหรือไม่ จากนั้น ต้องมาดูปัจจัยการผลิต ในพื้นที่จะปลูกด้วยว่า มีน้ำเพียงพอที่จะให้น้ำตลอดทั้ง 6 เดือน นับจากวันปลูก จนถึงวันเก็บเกี่ยวหรือไม่ ตะไคร้ แม้จะไม่ต้องการน้ำมาก แต่ก็ขาดน้ำไม่ได้) ส่วนเงินลงทุน อยู่ที่ไร่ละ 5-6 พันบาท
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอาชีพอิสระ การทำมาหากิน ที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่การเรียนรู้จากบทเรียนของคนอื่น แล้วนำไปประยุกต์ต่อยอดต่างหาก ที่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ขอบคุณภาพนิ่ง นายอภิวัฒน์ คำสิงห์ ผู้สื่อข่าวมติชนทีวี
ที่มาข่าว:เส้นทางเศรษฐี