ราคาทองคำแท่ง-รูปพรรณปรับลงต่อเนื่องอีก 50 บาท เหตุค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจแกร่งกว่าที่ตลาดประเมิน
รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ปรับราคาลงบาทละ 50 บาท ส่งผลให้ทองแท่งรับซื้อบาทละ 20,050 บาท ขายออกบาทละ 20,150 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ19,692.84 บาท ขายออกบาทละ 20,650 บาท ขณะที่ราคาต่างประเทศอยู่ที่ 1,270 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ราคาต่างประเทศอยู่ที่ 1,274.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับสาหตุที่ทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่ง เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลง ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดการณ์จากการส่งออกสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น และคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือน ส.ค. ประกอบกับ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก และ นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนให้เฟดหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ และเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ นอกจากนี้การพุ่งขึ้นของดัชนีหุ้นสหรัฐและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง เป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ 33.42 บาทต่ออลลาร์สหรัฐ จากที่เมื่อวานนี้ (ปิดตลาดที่ 33.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) หลังตัวเลขยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ครั้งแรก และ คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐปรับตัวดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ส่งผลให้สกุลดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืน
ที่มา : เดลินิวส์