หนึ่งสัปดาห์รู้ผล ส่งกระดูก “ผอ.อ้อย” ตรวจดีเอ็นเอ ตร.ฝ่าดงระเบิดหาหลักฐานชิ้นส่วนเพิ่ม-ญาติร้องชีวิตแลกด้วยชีวิต ตร.ฝ่าดงระเบิดค้นหาหลักฐานชิ้นส่วน “ผอ.อ้อย” ถุกอุ้มหายกว่า 3 เดือนเพิ่มเติม ขณะผกก.สภ.น้ำยืน เตรียมส่งกระดูกไปตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ ที่ รพ.ตำรวจ กรุงเทพฯ คาดว่าใช้เวลา 1 สัปดาห์ ทราบผล ด้านญาติ เผย พบกะโหลกพร้อมเครื่องแต่งกายขรก.คนแรกแทบช็อก เรียกร้องทั้งน้ำตาให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกม. ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี และ นายบัวกัน อุ่นอ่อน อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ่อแม่และอา ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำนานกว่า 3 เดือน ซึ่ง มี ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ต้องหา นั้น ได้ตามหา ผอ.อ้อย จนพบร่าง ถูกทิ้งอยู่ที่ในป่าข้างถนนทางขึ้นเนิน 500 บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ห่างจากฐานอนุพงศ์ ของทหารพราน ประมาณ 400 เมตร เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา สภาพศพเหลือแต่กะโหลกศีรษะ เศษกระดูกหลายชิ้น เส้นผม เข็มขัดราชการ นาฬิกาข้อมือ ซึ่งพ่อแม่อาและสามีของ ผอ.อ้อย ยืนยันว่า เป็นศพของ ผอ.อ้อยอย่างแน่นอน โดยเจ้าหน้าที่ชุด อีโอดี ได้ทำการเคลียร์พื้นที่ที่เป็นดงระเบิดก่อนทำการเก็บเศษชิ้นส่วนร่างกายของ ผอ.อ้อย ท่ามกลางความมืดไปทำการตรวจพิสูจน์ต่อไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณทางขึ้นเนิน 500 บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ. อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดที่พบศพของ ผอ. อ้อย พ.ต.ท.สังวร วันทะวี สารวัตรสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้เดินทางมาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารชุด อีโอดี เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของ สภ.น้ำยืน เพื่อที่ทำการเคลียร์พื้นที่ดงระเบิดและพากันตระเวนออกหาหลักฐานชิ้นส่วนร่างกายของ ผอ.อ้อยเพิ่มเติม
เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้พบว่า มีเศษเสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย ลักษณะคล้ายกับกางเกงในถูกเผาอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพของ ผอ. อ้อย โดยในวันนี้จะทำการค้นหาอย่างละเอียดรอบบริเวณ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจมั่นใจว่า จะต้องมีหลักฐานประกอบเพิ่มเติมอีกหลายชิ้นส่วนที่ยังหาไม่พบ เนื่องจาก ศพถูกทิ้งมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ทำให้ชิ้นส่วนของศพอาจถูกสัตว์ป่ากัดแทะหายไป โดยขณะนี้ชิ้นส่วนกระดูกของ ผอ.อ้อยทั้งหมด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับแพทย์ โรงพยาบาลน้ำยืน ได้จัดเก็บบรรจุไว้ในซองบรรจุชิ้นส่วนเรียบร้อยแล้ว
พ.ต.อ.สุธีร์ เศรษฐวงศ์ ผกก. สภ.น้ำยืน จ อุบลราชธานี ท้องที่ที่พบศพ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ขณะนี้ชิ้นส่วนร่างกายที่พบประกอบด้วย กะโหลกศีรษะ ฟันกราม เข็มขัด เส้นผม นาฬิกา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายเมื่อพบศพในท้องที่รับผิดชอบ จะต้องนำเอาชิ้นส่วนของศพทั้งหมดส่งไปตรวจพิสูจน์หาดีเอ็นเอ ที่ โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยตนได้รายงานเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว
ทางด้าน นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ อาของ ผอ.อ้อยที่พบศพเป็นคนแรก กล่าวว่า ตนเดินค้นหาตามความฝันของ นางแหลม อุ่นอ่อน แม่ของ ผอ.อ้อย ที่บอกว่า ศพของ ผอ. อ้อย อยู่ข้างทางด้านขวามือ จึงได้เดินลงไปจากถนนไปประมาณ ไม่ถึง 100 เมตร ได้พบกะโหลกมนุษย์วางอยู่บนพื้น ซึ่งยังไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเดินหาไปอีกพบเข็มขัดของข้าราชการตกอยู่กับเส้นผม ตนถึงกับแทบช็อกและมั่นใจว่า เป็นศพของ ผอ.อ้อย แน่นอน จึงได้แจ้งให้พ่อและแม่รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ ตนคิดว่า เรื่องนี้ คนร้ายที่ทำร้าย ผอ.อ้อย หลานสาวของตน ตามกฎหมายแล้วชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต นายบัวกัน กล่าวทั้งน้ำตา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ศรีไชย ผกก.กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรศรีสะเกษ พนักงานสอบสวนคดีนี้ ร่วมกับ พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.สังวร วันทะวี สารวัตรสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้ประสานงานกับแพทย์โรงพยาบาลน้ำยืน จ.อุบลราชธานี และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของเจ้าหน้าที่ทหาร และ ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี มาทำการเคลียร์พื้นที่ที่พบชิ้นส่วนของศพที่ญาติมั่นใจว่า เป็นศพของ ผอ.อ้อย เพื่อทำการเก็บชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์ เนื่องจากบริเวณที่พบศพเป็นดงระเบิดที่ยังเก็บกู้ไม่หมดและมีการติดประกาศเตือนระวังกับระเบิดเอาไว้ด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ต้องทำการเคลียร์พื้นที่ท่ามกลางความมืด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถทำการเก็บชิ้นส่วนร่างของ ผอ.อ้อยได้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นได้นำเอาชิ้นกระดูกมาวางเรียงเพื่อพิสูจน์ว่า เป็นชิ้นส่วนบริเวณใดของร่างกายบ้าง และได้เก็บเศษชิ้นส่วนทั้งหมดบรรจุในถุงเพื่อจะได้นำเอาตรวจพิสูจน์หาดีเอ็นเอ ว่าเป็นของ ผอ. อ้อยหรือไม่อย่างไร โดยมีบรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงานของ ผอ.อ้อย และเจ้าหน้าที่จากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวกับข้องมาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด
แพทย์หญิงวิชุดา แจ่มพันธุ์ แพทย์โรงพยาบาลน้ำยืน กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจสอบดูแล้วพบว่า มีชิ้นส่วนของร่างมนุษย์ ประกอบด้วย กะโหลกศีรษะ ฟันกราม กระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกสะบัก เส้นผม กระดูกไหปลาร้า กระดูกซี่โครง ซึ่งยังพบกระดูกไม่หมดทุกชิ้นส่วน จึงยังไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ว่า มีร่องรอยของการถูกทำร้ายที่ใดหรือไม่อย่างไร ซึ่งต้องมีการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก: ผู้จัดการออนไลน์