ตำรวจฉาว!! เรียกเงินหมื่นผู้เสียหาย คดีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “เมจิกสกิน” อ้างค่าเร่งรัดทำสำนวน ด้านกองปราบปรามจัดหนักสอบสวนวินัยร้ายแรง ถึงขั้นให้ออกจากราชการ ฝั่งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแฉ รับเงินใต้โต๊ะเรื่องธรรมดาของตำรวจ-ข้าราชการไทยจนไม่ยอมรับและปฏิรูปสักที
ฉาววงการสีกากี!! ถนัดเรียกเงินเข้ากระเป๋า
ให้ออกจากราชการ! พนักงานสอบสวน แชตหลุด เรียกเงินเหยื่อคดีเมจิกสกิน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เผยยอมรับว่าพนักงานสอบสวนมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้เสียหายคดีเมจิกสกินจริง หลังจากมีการสอบสวนเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับผู้เสียหายในลักษณะที่ไม่สมควร
โดยมีการอ้างว่าเป็นค่าเร่งรัดระหว่างทำสำนวนคดี ในขั้นตอนที่พนักงานอัยการส่งสำนวนกลับมาให้กองปราบปรามสอบปากคำเพิ่มใน 19 ประเด็น ซึ่งได้รับเงินจากผู้เสียหายไปแล้ว 5,000 บาท จากจำนวน 15,000 บาทที่มีการเรียกรับ
นอกจากนี้ ผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับตำรวจคนดังกล่าว พร้อมพิจารณาให้ออกจากราชการไว้ก่อน และจะดำเนินคดีทางอาญาด้วยเช่นกัน
“ในส่วนของผู้เสียหายผมพยายามติดต่อ แต่ว่าผู้เสียหายไม่รับโทรศัพท์ จึงได้ติดต่อไปทางเพื่อนผู้เสียหาย ซึ่งรู้เห็นเหตุการณ์ก็ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนท่านนี้ได้มีการเรียกค่าอำนวยความสะดวกส่วนหนึ่ง แล้วทางฝ่ายผู้เสียหายก็ได้มีการจ่ายเงินไปให้แล้วส่วนหนึ่ง ตรงนี้เราไม่ปิดบัง ใครดีเราก็ต้องปกป้อง ใครไม่ดีเราไม่ปกป้องเด็ดขาด ในส่วนของกองปราบฯ ผมว่าทุกคนตั้งใจทำงาน รักษาชื่อเสียง รักษาภาพลักษณ์ขององค์กรให้สมเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน
ยืนยันว่าดำเนินการอย่างเด็ดขาด เราไม่ปกป้องอยู่แล้ว สำหรับใครที่สร้างความเสื่อมเสียให้แก่องค์กรของเรา ก็อยากจะกราบขอโทษพี่น้องทุกคน ผมปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ก็ต้องขอโทษที่หากดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา 1,200 กว่าคนไม่ทั่วถึง และขอโทษไปยังผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนต้องมาเจอกับคนแย่ๆ มาเจอกับเรื่องแย่ๆ แบบนี้
อีกส่วนหนึ่งก็ฝากเตือนไปถึงทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือผู้เกี่ยวข้องใดๆ ก็ตามถ้ามีการไปแอบอ้าง หรือไปเรียกร้องเงินทองอะไรต่างๆ หรือผลประโยชน์ต่างๆ อย่าไปเชื่อว่าสามารถจะช่วยได้”
และหลังจากนี้ตำรวจคนดังกล่าวจะต้องเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งตามกำหนดการจะกลับจากการฝึกอบรมที่สถาบันการสอบสวน ในวันที่ 14 ก.ย.นี้
มีอีกเพียบ! ข้าราชการไม่โปร่งใส
ประเด็นดังกล่าวทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่สมควรของข้าราชการรายนี้ ทางทีมข่าว MGR Live จึงติดต่อไปยัง ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อช่วยวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างไม่โปร่งใส
“พฤติกรรมแบบนี้มีอยู่ทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะคดีนี้ ทั้งในหน่วยงานราชการอื่นๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ หรือในกระบวนการยุติธรรม ขั้นตอนอื่นๆ เราก็ได้ยินเรื่องเหล่านี้อยู่เสมอ เนื่องจากกระบวนการต่างๆ มันไม่มีความโปร่งใสและมีขั้นตอนหลายอย่าง ยุ่งยาก
ประชาชนไม่ว่าจะเป็นโจทก์ เป็นจำเลย เป็นผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้เสียหายไม่รู้แน่นอนว่าเรื่องของตัวเองมันจะไปยังไง มันจะจบยังไง รวมทั้งคนยังเป็นที่รับรู้อยู่ว่ากระบวนการยุติธรรมมันสามารถที่จะซื้อหากันได้ เพราะฉะนั้นประชาชนเองก็เป็นฝ่ายเสนอให้ก็มี เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายเรียกร้องก็มีนะครับ”
หากจะมีการแก้ไขเรื่องเหล่านี้ สิ่งหนึ่งคือกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดควรจะทำให้รวดเร็ว และประชาชนต้องสามารถติดตามได้ว่าเรื่องของตัวเองไปถึงไหนบ้างแล้ว ขณะเดียวกันผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองได้กระทำไป ผู้บังคับบัญชาถือว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์จะต้องเข้มงวดและต้องตรวจสอบให้ดี
ดร.มานะ นิมิตรมงคล
“เรื่องนี้มีทั่วไปในระบบราชการไทยนะครับ เจ้าหน้าที่ที่ละโมบแล้วก็เคยชินกับการไปหลอกลวงประชาชนหรือข่มขู่ประชาชน ถ้าไปหลอกลวงผู้เสียหายเขาไม่ควรจะต้องจ่าย เจ้าหน้าที่คุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ก็ทำไม่จบไม่สิ้น ถ้าจะเริ่มต้นไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง และจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวด
และวันนี้ประชาชนกำลังเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกัน เหตุการณ์นี้ คดีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง เพราะฉะนั้นถ้าจะปฏิรูปตำรวจ ทำยังไงก็แล้วแต่จะต้องบอกประชาชนให้ได้ว่าถ้าประชาชนเดือดร้อนเพราะโจร เพราะพวกลักขโมย สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นก็คือพวกโจรขโมยเหล่านั้นจะถูกจับและเกิดความเกรงกลัว ประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมจะไม่ถูกใครข่มขู่คุกคาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นมิตรกับประชาชน และทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน อันนี้ถึงจะเป็นการปฏิรูปตำรวจที่แท้จริง
เหตุการณ์แบบนี้มีมานานถ้าไม่ยอมรับความจริง แล้วลงมือปฏิรูปก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไปครับ แต่ถ้าเรายังปล่อยให้มันหนักหนารุนแรงขึ้น ปัญหาสังคม ปัญาความขัดแย้งของผู้คน ปัญหาความเหลื่อมล้ำการเอารัดเอาเปรียบกันก็จะเกิดขึ้นทั่วไป สังคมก็จะไม่สงบสุขครับ”
ข่าวโดย MGR Live
