เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เข้ารายงานความคืบหน้าคดีกลุ่มธุรกิจคนจีนผิดกฎหมายในไทยกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร นานกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยภายหลังว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และใกล้ที่จะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ในบางคดี ขณะนี้ยังรอหลักฐานเส้นทางการเงินจากธนาคารเพื่อนำมาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากั[ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ฐานฟอกเงิน ได้อย่างแน่นอน ส่วนคดีความผิดนอกราชอาณาจักรยังไม่ปรากฏหลักฐาน เนื่องจากคดีนี้จะต้องมีการทำความผิดทั้งในและต่างประเทศชัดเจน โดยเฉพาะการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ ขณะนี้ตำรวจยังไม่พบ แต่หากพบมีความผิดจะดำเนินคดีเช่นกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ส่วนคดียาเสพติดที่กลุ่มนี้เรียกว่า “แฮปปี้วอเตอร์” พบว่าเป็นยาเสพติดที่ผสมกันขึ้นมาเองอย่างง่ายๆ ในประเทศ โดยที่ไม่ได้นำเข้า จึงยังถือว่าเป็นความในราชอาณาจักรเท่านั้น ส่วนที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีและเป็นประโยชน์สามารถนำมามอบให้พิจารณา เพราะที่ผ่านมาเคยนำข้อมูลของนายชูวิทย์มาสืบสวน เช่น การจัดตั้งมูลนิธิของกลุ่มคนจีนที่ใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อวีซ่าอยู่ในไทยได้นานขึ้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า กรณีนายชูวิทย์ไม่มั่นใจการทำงานของตนนั้น ไม่น้อยใจ ไม่โกรธใครทั้งสิ้น จะไม่ขัดแย้งกับใคร แต่เอาทุกความเห็นเข้ามาทำงาน หรือในโซเชียลมีประเด็น ถ้าใช่ก็จะนำมาทำงาน เพราะคดีนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยความรู้สึก แต่จะต้องทำไปตามพยานหลักฐานที่สืบสวนได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ออกมาระบุว่าตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับพนักงานรักษาความปลอดภัยจินหลิงผับว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ยอมรับว่ามีการตั้งข้อหาจริง แต่ในรายละเอียดจะต้องไปสอบถามกับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เนื่องจากเป็นผู้เข้าไปจับกุมวันเกิดเหตุ เพราะจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสถานที่มากกว่า แต่ตนเพิ่งเข้ามารับหน้าที่กำกับการสืบสวนหลังจากจับกุมเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ การสอบสวนหัวหน้าสถานีตรวจคนเข้าเมือง 27 แห่งนั้น ได้เรียกมาสอบสวนไปแล้วกว่า 2 สัปดาห์ และบางนายได้ร้องไห้ขณะถูกสอบสวนเพราะจำนนต่อหลักฐานที่พบการให้อนุญาตอยู่ในไทย แต่หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่เกี่ยวข้องมากกว่า 27 นาย เพราะผู้ที่มีลายเซ็นเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด รวมไปถึงนายพลที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ที่พบข้อมูลก่อนหน้านี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาสอบสวนทั้งหมดไม่มีละเว้น
“ยังมีการตรวจค้นทรัพย์สินของนายตู้ห่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง ฝากถึงประชาชนและกราบเรียนนายชูวิทย์ ทุกคอมเมนต์ในคดีนี้ทำมามากแล้ว สิ่งที่เห็นชัดเจนแล้วคือตู้ห่าวอยู่ในเรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว เพราะฉะนั้นในคดีนี้จับผู้ต้องหาคนจีนไปประมาณ 100 กว่ายังอยู่ในห้องกักของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ส่วนประเด็นปลีกย่อยไม่ต้องกังวล วันนี้ไม่มีตำรวจคนไหน ไม่มีพนักงานสอบสวนคนไหนกล้านอกแถว ถ้าผมกำกับดูแล” รอง ผบ.ตร.กล่าว
ที่มาเนื้อหาข่าว : มติชนออนไลน์