<h3><!--more--></h3> <h3>เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (12 มิถุนายน 2563) พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.0 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กม/ชม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม/ชม คาดว่าพายุนี้จะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในระยะต่อไป และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 14-15 มิถุนายน 2563 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 13-16 มิถุนายน 2563 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้</h3> <h3> <span style="text-decoration: underline;"><strong> วันที่ 13 มิถุนายน 2563</strong></span></h3> <h3> ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี</h3> <h3> ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด</h3> <h3> ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่</h3> <h3></h3> <h3> <span style="text-decoration: underline;"> ในช่วงวันที่ 14 - 15 มิถุนายน 2563</span></h3> <h3> ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์</h3> <h3> ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี</h3> <h3> ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล</h3> <h3> ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด</h3> <h3> ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต</h3> <h3></h3> <h3> <span style="text-decoration: underline;"> วันที่ 16 มิถุนายน 2563</span></h3> <h3> ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์</h3> <h3> ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม</h3> <h3> ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม</h3> <h3> ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด</h3> <h3> ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา</h3> <h3></h3> <h3> สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง</h3> <h3></h3> <h3> จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง</h3> <h3></h3> <h3 style="text-align: center;"> ประกาศ ณ วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 17.00 น.</h3> <h3 style="text-align: center;"> กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป</h3> <h3 style="text-align: center;">ในวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 23.00 น.</h3> <h3 style="text-align: center;"></h3> <h3 style="text-align: center;"> (ลงชื่อ) นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์</h3> <h3 style="text-align: center;"> (สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์)</h3> <h3 style="text-align: center;"> อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา</h3> <hr /> <h3 style="text-align: center;"><a href="https://katipnews.com">อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติมคลิก</a></h3>