กรมการขนส่งทางบก จ่อเสนอปรับปรุงร่างกฎกระทรวง ไฟเขียวรถยนต์ส่วนบุคคลจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ไม่เกินเจ็ดคนแบบบริการทางเลือก ผ่านแอปพลิเคชัน ตอบสนองการเดินทางในปัจจุบัน
นายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนแบบบริการทางเลือกพ.ศ. …. โดยมีส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถรับจ้าง ผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างแบบบริการทางเลือก และผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น
โดยกรมการขนส่งทางบกได้ชี้แจงเหตุผลที่ยกร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้ที่ประชุมทราบว่า เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการใช้ชีวิตของประชาชนได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามบริบทของสังคมและเทคโนโลยี ประชาชนจำนวนมากนิยมเรียกใช้บริการรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งรถยนต์ที่นำมาให้บริการบางส่วนไม่สามารถจดทะเบียนได้ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และทางราชการสามารถควบคุมติดตามตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร จึงได้ดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ไม่เกินเจ็ดคนแบบบริการทางลือก โดยการรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน โดยให้มีการจดทะเบียนรถได้ 1 คนต่อ 1 คัน กำหนดลักษณะรถและประเภทตามขนาดกำลังของรถ คือ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และรถอเนกประสงค์ รถต้องมีและใช้อุปกรณ์เครื่องสื่อสารเพื่อรับงานจ้างผ่านแอปพลิเคชันที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง กำหนดอายุการใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
รวมทั้งต้องแสดงเครื่องหมายการเป็นรถยนต์รับจ้างตามแบบที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกำหนด ค่าจ้างและค่าบริการอื่นให้เป็นไปตามที่ตกลงกัน โดยผู้รับจ้างต้องแสดงราคาผ่านแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าก่อนตกลงใช้บริการ แอปพลิเคชันที่จะนำมาใช้เรียกรถต้องได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกและผู้ขับรถต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย
สำหรับการรับฟังความคิดเห็นนี้ เป็นการรวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมทุกฝ่าย ซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เช่น กลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่เดิมส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วย โดยเห็นว่าเป็นร่างกฎหมายที่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ไม่เท่าเทียมและไม่เป็นธรรมระหว่างรถแท็กซี่เดิมในระบบกับรถแท็กซี่แบบบริการทางเลือก
ส่วนกลุ่มผู้ให้บริการแอปพลิเคชันจะเห็นด้วย โดยเห็นว่าสอดคล้องกับวิถีการใช้ชีวิตของประชาชนในปัจจุบันและเกิดความสะดวกปลอดภัยกับประชาชน ส่วนกลุ่มนักวิชาการและผู้แทนส่วนราชการ เห็นด้วยกับการกำหนดให้มีรถแท็กซี่แบบบริการทางเลือก แต่เห็นว่าควรร่างกฎหมายให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายทั้งกลุ่มรถแท็กซี่เดิมและรถแท็กซี่แบบบริการทางเลือก รวมทั้งควรกำหนดคุณสมบัติ หน้าที่ความรับผิดชอบ และบทกำหนดโทษผู้ให้บริการแอปพลิเคชันให้ครอบคลุมครบถ้วนและชัดเจน เพื่อให้ภาครัฐสามารถควบคุมกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดการเอารัดเอาเปรียบกับผู้ขับรถและประชาชนผู้ใช้บริการ
ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะได้รวบรวมทุกความเห็นและข้อเสนอแนะเหล่านี้ เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ให้มีความเหมาะสม และสรุปนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป
ข้อมูลข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ