เมื่อวันที่ 1 ก.พ.นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงมีรถบรรทุกสินค้าจากฝั่งไทยเดินทางไปรอทำพิธีการทางศุลกากรเพื่อส่งออกสินค้าไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตามปกติแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ในประเทศเมียนมาดังกล่าว เนื่องจากทางด่านพรมแดนฝัง จ.ท่าขี้เหล็ก แจ้งว่ายังคงสามารถขนส่งสินค้าได้ตามปกติโดยมีการวางกำลังด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และศุลกากร ไว้ตามเดิมโดยไม่มีการเสริมกำลังทหารเข้าไปประจำเป็นจำนวนมากแต่อย่างใด
ทำให้รถบรรทุกสินค้าฝั่งไทยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ ที่ส่งออกไปวันละประมาณ 30-50 ล้านบาท ยังคงขนส่งสินค้าไปที่ด่านศุลกากรแม่สายตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดเดียวที่ไทย-เมียนมา ใช้ติดต่อกันทางด้าน จ.เชียงราย ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ทางทหารของเมียนมาซึ่งประจำอยู่ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก จำนวน 3 หน่วยได้กระจายกำลังกันไปยึดจุดสำคัญๆ โดยเฉพาะด่านหมากยางซึ่งตั้งอยู่บนถนนอาร์สามบี เชื่อมระหว่าง จ.ท่าขี้เหล็ก และเมืองเชียงตุงซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในรัฐฉานตะวันออกรวมทั้งสามารถเชื่อมไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ พร้อมทั้งห้ามประชาชนทั่วไปเดินทางผ่านด่านไปมาด้วย
นอกจากนี้มีการตัดโทรศัพท์และสัญญานสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตแต่การสื่อสารระหว่างหน่วยงานและผู้คนใน อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ยังคงทำได้เหมือนเดิมเพราะส่วนใหญ่ใช้สัญญานจากฝั่งไทย ทำให้ทางคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ฝ่ายเมียนมาแจ้งว่าจะมีการจัดส่งคนไทยที่ตกค้างในประเทศเมียนมาข้ามกลับมาฝั่งไทยตรงสะพานแห่งที่ 2 ในวันนี้จำนวน 4 คนเหมือนเดิม
ต่อมาเมื่อถึงเวลาประมาณ 09.40 น.ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ฝั่งเมียนมาได้แจ้งยกเลิกและปิดประตูตรงด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาข้ามมลำน้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งใช้เพื่อการติดต่อกันเพียงจุดเดียวด้าน จ.เชียงราย ทำให้การขนส่งสินค้าชายแดนต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย ส่วนคนไทยจำนวน 4 คนที่รอจะเดินทางข้ามกลับมาก็ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ตามเดิมขณะที่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้พากันไปตรวจดูการปิดด่านพรมแดนของเมียนมาจากสะพานในฝั่งไทยเพื่อความชัดเจนก่อนจะพากันเดินทางกลับมาประจำที่ด่านพรมแดนเช่นเดิม
ด้าน น.ส.ผกายมาส เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่าคาดหวังว่าการค้าชายแดนด้าน อ.แม่สาย จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมในเร็วๆ นี้ เพราะสถานการณ์ด้าน จ.ท่าขี้เหล็ก ไม่ได้มีปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยมากเหมือนทางด้านฝั่งตรงกันข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก แต่สถานการณ์ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ต้องรอติดตามกันต่อไปก่อน.
ข้อมูลข่าวจาก ข่าวสด