ธ.ก.ส. เร่งจ่ายเงิน 1 แสนล้านบาท ให้ชาวนา 4.56 ล้านราย ไว้ใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งโครงการประกันรายได้ จ่ายอีก 2.4 ล้านคน 9 ธ.ค.นี้-เงินช่วยเหลือไร่ละ 500 บาท รวมถึงโครงการปล่อยกู้ จำนำยุ้งฉาง-รวบรวมข้าว
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารกำลังเร่งรัดการโอนเงินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต63/64 และปล่อยกู้โครงการสินเชื่อคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าว วงเงินรวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท ให้ชาวนาที่ลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.56 ล้านครัวเรือน ได้นำเงินไปใช้จ่ายให้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่กำลังจะถึงนี้
ประกอบด้วย โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยจ่ายไปแล้ว 1.42 ล้านราย คิดเป็นวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท และหลังจากนี้จะจ่ายเพิ่มให้กับเกษตรกรที่ตกค้างงวดที่ 2-4 อีก 2.4 ล้านราย วงเงิน 2.04 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ที่เหลือจะพยายามจ่ายให้มากสุดภายในสิ้นเดือนนี้
ส่วนโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน ล่าสุดธนาคารได้จ่ายเงินให้กับเกษตรกรไปได้ครบแล้วเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 4.56 ล้านราย รวมวงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาท
“ขณะนี้ ครม. ได้อนุมัติขยายกรอบวงเงินชดเชยโครงการประกันรายได้ข้าวจาก 1.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 4.5 หมื่นล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ทำให้หลังจากนี้ธนาคารมีความพร้อมจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้ทันตามกำหนด ซึ่งประเมินว่า เกษตรกรแต่ละครัวเรือนจะได้รับเงินทั้งจากโครงการประกันรายได้ และเงินช่วยค่าบริหารจัดการไร่ละ 500 บาท สูงถึง 55,000 บาทต่อครัวเรือน”
นายกษาปณ์กล่าวว่า ธ.ก.ส.ยังเตรียมพร้อมมาตรการคู่ขนาน ปล่อยสินเชื่อเพื่อดูแลเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มปล่อยได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะมีทั้งโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท โดยมีเป้าหมายชะลอการขายข้าวเปลือก 1.5 ล้านตัน และจะช่วยเหลือชาวนาได้กว่า 2-5 แสนราย โดยชาวนาที่เข้าร่วมมาตรการนี้ยังได้รับเงินค่าเก็บรักษาข้าวอีกตันละ 1,500 บาท แต่หากนำไปฝากเก็บกับสถาบันเกษตรกรจะได้รับตันละ 500 บาท
“สาเหตุที่ธนาคารปล่อยกู้โครงการชะลอการขายข้าวเปลือกล่าช้า เนื่องจากฤดูกาลเพาะปลูกข้าวมีการล่าช้าออกมา หลังประสบปัญหาทั้งภัยแล้ง และน้ำท่วม อีกทั้งพอถึงช่วงเก็บเกี่ยวก็เกิดฝนตกหนัก ทำให้ข้าวมีความชื้นสูง จะต้องใช้เวลาตากข้าวให้นานขึ้น ทำให้กว่าที่ชาวนาจะนำข้าวเก็บเข้ายุ้งฉางและมาขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส.ทำได้ล่าช้า ส่วนโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร วงเงินอีก 1.5 หมื่นล้านบาท ธนาคารได้ทยอยปล่อยไปแล้ว ณ วันที่ 4 ธ.ค. วงเงินรวมกว่า 900 ล้านบาท”
สำหรับการประกันรายได้สินค้าเกษตรประเภทอื่นๆ ทั้ง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังธนาคารจะทยอยจ่ายเงินให้กับเกษตรได้ตามกำหนด โดยขณะนี้วงเงินการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ครม.ได้อนุมัติไปแล้ว 9.7 พันล้านบาท ส่วนการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน 5.6 พันล้านบาทกำลังรอการพิจารณาอยู่
ส่วนวงเงินการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง 9.5 พันล้านบาท ได้เริ่มจ่ายให้กับเกษตรกร 752 ราย ไปแล้ว คิดเป็นวงเงิน 10.19 ล้านบาท เช่นเดียวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์วงเงิน 1,812 ล้านบาท ได้จ่ายให้เกษตรแล้ว 1.39 แสนราย วงเงิน 637 ล้านบาท นอกจากนี้ โครงการเยียวยาช่วยเหลือชาวสวนลำไยที่ยังตกค้างกว่า 2,000 ราย จากทั้งหมด 2.02 แสนราย ซึ่งจะได้รับเงินเยียวยาครัวเรือน 50,000 บาท ก็จะได้รับเงินภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน
ข้อมูลข่าวจาก ประชาชาติ