เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ และนำผลผลิตเมล็ดข้าวเปลือกไปขายตามลานรับซื้อ พบว่าบรรยากาศเริ่มดีขึ้น หลังประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ตั้งแต่เปิดตลาดรับซื้อข้าวเปลือกปี 2563 เป็นต้นมา โดยลานรับซื้อให้ราคาเพียงตันละ 6,000-7,000 บาท หรือ ก.ก.ละ 6-7 บาทเท่านั้น ซึ่งทำให้ชาวนาประสบปัญหาขายข้าวขาดทุน ส่งผลให้ชาวนาในรายที่ยังไม่ได้นำข้าวไปขาย ทำการตากผึ่งแดดและชะลอการขาย ไว้ก่อน จึงส่งผลสืบเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้มีการปรับราคารับซื้อข้าวสูงขึ้นอีกตันละ 5,000 บาท หรือ ก.ก.ละ 5 บาท
นายชัยศรี ภูเด่นใส อายุ 61 ปี บ้านศรีสุข ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนนำข้าวเปลือกมาขายที่ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์เป็นประจำ ซึ่งในครั้งนี้นำข้าวเจ้าหอมมะลิมาขาย โดยเป็นข้าวสด เพราะไม่มีสถานที่ตาก และเห็นว่าราคาสูงขึ้นจากตันละ 8,000 บาท เป็นตันละประมาณ 10,000 บาท หลังจากตรวจคุณภาพเมล็ดข้าวแล้ว ตนได้ราคาตันละ 10,300 บาท ถึงแม้จะได้ราคาต่ำกว่าปีที่ผ่านมาก็พอจะยิ้มได้ เพราะเป็นราคาที่พอใจ และถึงแม้จะไม่ได้กำไรมากแต่ก็ไม่ขาดทุน ทั้งนี้ หากเป็นข้าวแห้งก็จะได้ราคาดีกว่านี้ จากการสอบถามทราบว่าราคาข้าวแห้งสูงกล่าข้าวสด ถึงตันละ 12,000-12,500 บาททีเดียว ถือเสียว่าเป็นการสำรวจราคา ซึ่งครั้งต่อไปตนก็จะข้าวตากให้เมล็ดแห้งก่อนนำมาขาย เพื่อที่จะขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น
ด้านนายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า ผลพวงจากการที่ชาวนาชะลอการขาย โดยนำเมล็ดข้าวที่ได้จากการเกี่ยวสดไปทำการตากให้แห้งก่อนที่จะนำมาขาย ซึ่งเป็นการชะลอขายไปในตัวนั้น ได้ส่งผลดีให้ราคารับซื้อข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเจ้าหอมมะลิ มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเริ่มต้นรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกนาปี 2563 ที่ผ่านมา จากราคาข้าวเหนียว กข. 6 ราคาตันละ 6,000 บาท สัปดาห์ต่อมามีการปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นตันละ 8,500 บาท และปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 10,500-11,000 บาท ขณะที่ข้าวเจ้าหอมมะลิ จากตันละ 8,000 บาท ปัจจุบันตันละ 12,000-12,500 บาท
นายธนาพลกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ราคารับซื้อผลผลิตข้าวนาปี ทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าในปีนี้ ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้มีสาเหตุจากนายทุนลักลอบนำข้าวเปลือกและข้าวสารจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคุณภาพและราคาต่ำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยพ่อค้าคนกลางได้รับซื้อและนำมาปลอมปนจำหน่าย ทำให้ราคาข้าวของชาวนาไทยที่ราคาขยับขึ้นสูงตกต่ำลง ส่งผลต่อเนื่องถึงบรรยากาศการรับซื้อผลผลิตข้างฤดูกาลนี้ที่ราคายังต่ำกว่าปีที่ผ่านมา จึงเป็นปัญหาที่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีมาตรการห้ามเด็ดขาด ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นำข้าวจากเพื่อนบ้านลักลอบเข้ามาอีก เพราะจะกระทบถึงราคาข้าวของชาวนาไทยดังกล่าว
ข้อมูลข่าวจาก แนวหน้า